บทความฟุตบอล | เอลเลียตต์ ว่าที่สตาร์คนใหม่แห่ง แอนฟิลด์

 

บทความฟุตบอล | ฮาร์วี่ย์ เอลเลียตต์ ดาวรุ่งอนาคตไกลในวัย 18 ปี ของ ลิเวอร์พูล ออกสตาร์ตตัวจริง 3 เกมติดต่อกัน แต่ดันโชคร้ายได้รับบาดเจ็บ

ต้องเข้ารับการผ่าตัดจากการวินิจฉัยว่า “ข้อเท้าหลุด”

 

บทความฟุตบอล | เอลเลียตต์ มิดฟิลด์ดาวรุ่งกำลังทำผลงานได้ดี จากการออกสตาร์ทตัวจริง 3 นัดแรก ด้วยวัยเพียงแค่ 18 ปีเท่านั้น แถมยังทำผลงานได้อย่างน่าประทับใจอีกด้วย แต่ดันโชคร้าย ได้รับบาดเจ็บ ข้อเท้าหลุด ในเกมที่เสมอกับเชลซีไป 1-1

เราก็หวังว่าเจ้าตัวจะสามารถสลัดอาการบาดเจ็ดในเร็ววัน และกลับมาเค้นฟอร์มเก่งได้อย่างที่เคยทำและแน่นอนว่าเส้นทางของเขายังอีกยาวไกล วันนี้ GurooCafe จะพาไปทำความรู้จักว่าที่สตาร์เด่นแห่งแอนฟิลด์ที่ชื่อ ฮาร์วี่ย์ เอลเลียตต์ กันให้มากขึ้น!

 

เลือดหงส์เข้มข้น

บทความฟุตบอล | เอลเลียตต์

 

หลังจากที่ดาวรุ่งชาวอังกฤษได้สร้างประวัติศาสตร์เป็นนักเตะที่ลงเล่นในพรีเมียร์ลีกด้วยอายุที่น้อยที่สุดในวัยเพียง 16 ปี 30 วันเมื่อปี 2019 กับฟูแล่ม เจ้าตัวก็ตกเป็นเป้าหมายของบรรดาทีมยักษ์ใหญ่ทันที ก่อนที่จะเป็น ลิเวอร์พูลที่สามารถดึงเขาไปร่วมทัพได้ในปีเดียวกันนั้น

ซึ่งนอกจากจะมีฝีเท้าที่ยอดเยี่ยมแล้ว เจ้าตัวยังเป็นแฟนบอลตัวยงของทัพหงส์แดง โดยมี โมฮัมเหม็ด ซาลาห์ แนวรุกชาวอียิปต์เป็นไอดอลถึงขั้นที่ว่าในช่วงเวลาเดียวกับที่ยอดทีมจากเมอร์ซี่ย์ไซด์ยื่นข้อเสนอไปก็มีอีกหลายทีมตามจีบด้วยทั้ง

เรอัล มาดริด, บาร์เซโลน่า, แอร์เบ ไลป์ซิก และ เชลซี แต่ก็เลือกปฏิเสธไปทั้งหมด โดยเฉพาะกับราชันชุดขาว ที่เจ้าหนู เอลเลียตต์ ให้เหตุผลไว้ว่าไม่อยากไปร่วมงานกับ เซร์คิโอ รามอส อดีตปราการหลังกัปตันทีมเนื่องจากเขา

เป็นต้นเหตุที่ทำให้ไอดอลของเขาอย่าง โม ซาลาห์ บาดเจ็บในเกมนัดชิงแชมเปี้ยนส์ลีก 2018 อีกด้วย เรียกว่าเลือดสาวก “หงส์แดง” เข้มข้นเลยทีเดียวสำหรับหนุ่มน้อยรายนี้

 

ฟอร์มเด่นกับแบล็คเบิร์น

บทความฟุตบอล | เอลเลียตต์

 

หลังจากย้ายมาเล่นอยู่ในทีมเยาวชนของทีมได้ 1 ปี ในช่วงซัมเมอร์ 2020 ลิเวอร์พูล ก็ตัดสินใจปล่อยตัวเขาออกไปให้กับ แบล็คเบิร์น ในลีกแชมเปี้ยนส์ชิพยืมตัว เพื่อให้เจ้าหนู เอลเลียตต์ ได้เก็บประสบการณ์เพื่อพัฒนาฝีเท้า และเจ้าตัวก็สามารถทำผลงานได้อย่างยอดเยี่ยม

จากการลงสนาม 41 นัด ยิง 7 ประตู 11 แอสซิสต์ถือเป็นอันดับ 3 ของลีก รองจาก ไมเคิล โอลิสจากเรดดิ้ง และ เอมิเลียโน่ บูเอนเดียจากนอริช รวมถึงมีสถิติจ่ายบอลสำคัญอยู่ที่ 0.79 ครั้งต่อ 90 นาทีอีกด้วย น่าเสียดายที่ผลงานโดยรวมของทีมไม่ได้ใกล้เคียงการเลื่อนชั้นเลย

จากการจบในอันดับ 15 ของตาราง แต่ก็ปฏิเสธไม่ได้ว่าฟอร์มการเล่นของเขาในลีกรองแดนผู้ดีก็จัดว่ายอดเยี่ยมเหลือเกิน

เทียบแข้งรุ่นเดียวกัน

บทความฟุตบอล | เอลเลียตต์

 

เมื่อเทียบกับดาวรุ่งรุ่นราวคราวเดียวกัน เอลเลียตต์ ดูจะได้รับโอกาสและความไว้วางใจที่มากกว่า อย่างในรายของ เบน วู้ดเบิร์น ที่ถูกจับตามองไม่น้อย แต่ก็แทบจะยังไม่ได้รับโอกาสลงสนามกับทีมชุดใหญ่เลยเมื่อซีซั่นที่ผ่านมา

ก่อนโดนปล่อยยืมไปให้กับ แบล็คพูล ในช่วงครึ่งซีซั่นหลัง และได้โอกาสลงสนามไป 11 นัดแต่ยังทำผลงานไม่ได้ ส่วนในซีซั่นนี้เขาถูกปล่อยไปให้กับ ฮาร์ทส์ ในลีกสก็อตต์ยืมตัว ในขณะที่คนที่ได้รับโอกาสมาแล้วก่อนหน้านี้อย่าง เคอติส โจนส์

แม้จะได้ลงให้กับทีมชุดใหญ่ไปทั้งหมด 34 นัด เมื่อฤดูกาลก่อน แต่ก็ไม่สม่ำเสมอนัก ส่วนผลงานก็กดไปได้ 4 ประตู 5 แอสซิสต์ รวมทุกรายการ โดยถ้าเทียบความหลากหลาย เอลเลียตต์ก็ทำได้ดีกว่าจากการถูกปรับตำแหน่งจากปีกมาเล่นกองกลาง

แต่ก็ยังทำผลงานได้อย่างยอดเยี่ยม

 

การปรับตำแหน่งใหม่ไฉไลกว่าเดิม

บทความฟุตบอล | เอลเลียตต์

 

หลังจากที่เขากลับมาภายใต้การดูแลของ เจอร์เก้น คล็อปป์ เขาก็ถูกเปลี่ยนตำแหน่งจากเดิมที่เล่นในตำแหน่งปีกตัวรุก เปลี่ยนมาเป็นกองกลางแทนตั้งแต่ช่วงปรีซีซั่น ซึ่งเขาก็สามารถทำผลงานได้อย่างยอดเยี่ยม ทั้งการผ่านบอลและการเพรซซิ่ง

โดยนายใหญ่ชาวเยอรมันก็ได้ให้ความเห็นไว้ว่า “สิ่งสำคัญสำหรับเด็กวัยนี้ คุณต้องเรียนรู้ในการเล่นในหลายตำแหน่ง เพื่อความยืดหยุ่นในอนาคต และเพื่อให้มีส่วนร่วมกับทีมได้มากขึ้น”

ในขณะที่ตัวนักเตะเองก็เปิดเผยถึงตำแหน่งใหม่ว่า  “บอกตามตรง ผมไม่สนใจหรอกว่าจะได้เล่นตำแหน่งไหน ไม่ว่าจะเล่นตรงไหนผมก็ตื่นเต้นเสมอที่ได้สวมเสื้อตัวนี้ลงสนามในทุกๆ นัด และทุ่มเทเต็มร้อย ทำงานหนักเท่าที่ตัวเองจะทำได้และพยายามสร้างอิมแพคในเกม

ไม่ว่าบอสจะบอกให้ผมไปเล่นตรงไหน ผมจะมั่นใจและต้องการไปเล่นตรงนั้น” โดยตำแหน่งกองกลางก็กลายเป็นตำแหน่งหลัก ที่เจ้าตัวได้ลงเล่นในสีเสื้อแดงเพลิง หลังผ่านมา 3 เกมของซีซั่น 2020/21

 

ความไว้วางใจจากคล็อปป์

 

“พวกเราได้กองกลางคนใหม่แล้ว นั่นคือ ฮาร์วี่ย์ เอลเลียตต์” นี่เป็นสิ่งที่นายใหญ่หงส์แดงกล่าวไว้เมื่อได้เห็นฟอร์มอันยอดเยี่ยมของแข้งรายนี้ในเกมปรีซีซั่นกับ แอธเลติก บิลเบา นี่เป็นอีกหนึ่งเหตุผลที่ทีมเลือกที่จะไม่เสริมตำแหน่งกองกลาง

ทั้งที่เสีย จอร์จินิโอ ไวจ์นัลดุม และ เซอร์ดราน ชากิรี่ ออกไปเนื่องจากกุนซือเมืองเบียร์ให้ความเชื่อใจในตัวดาวรุ่งรายนี้อย่างเต็มที่ และด้วยการที่ในแดนกลางมีช่องว่างทำให้ คล็อปป์เริ่มส่งตัวเอลเลียตต์ยืนคุมแดนกลางเคียงข้างกับ จอร์แดน เฮนเดอร์สัน

และ ฟาบินโญ่ มาตั้งแต่เกมนัดที่ 2 แถมยังได้ลงสนามในฐานะตัวจริงที่ได้เล่นเต็มเกมครบ 90 นาทีเลยทีเดียว นอกจากนี้ในเรื่องของฟอร์มการเล่นเขาก็ทำได้ดี ทั้งการลงมาช่วยเกมรับ ในจังหวะที่มาซ้อน เทรนท์ อเล็กซานเดอร์ อาโนลด์

รวมถึงการเข้าเพรซซิ่งใส่คู่แข่ง รวมถึงการจ่ายบอลตัดผ่านแนวรับ จนทำให้เขาเกือบทำแอสซิสต์ได้ในเกมที่พบกับ เบิร์นลี่ย์ ซึ่งเขาแทงบอลทะลุไปให้กับ โมฮัมเหม็ด ซาลาห์ หลุดไปยิงแต่น่าเสียดายที่เป็นล้ำหน้าไปเสียก่อน

 

แต่ช่างน่าเสียดายที่เจ้าตัวได้รับอาการบาดเจ็บ โดยไม่รู้ว่าถ้าเจ้าตัวกลับมา จะสามารถเรียกฟอร์มเก่งออกมาได้หรือไม่ และเขาจะสามารถทำผลงานได้ตามที่ใครต่อใครคาดหวังได้อีกไหม โดยเฉพาะ เจอร์เก้น คล็อปป์ ที่ทุ่มความไว้ใจให้เขาอย่างเต็มที่

สาวกหงส์แดง ก็คงทำได้แค่ภาวนา ให้มิดฟิลด์อนาคตไกลคนนี้ สลัดอาการบาดเจ็บได้โดยไว และกลับมาสร้างผลงานให้ประจักษ์แก่สายตาแฟนบอลอีกครั้งบนสนามหญ้าที่เขาคุ้นเคยได้ในเร็ววันนี้

 

ติดตามข่าวสารฟุตบอลไปกับกูรูคาเฟ่ คลิก 

ให้ฟุตบอลเป็นมากกว่ากีฬา
รับทีเด็ดแม่นๆ ส่งตรงจากคอลัมนิสต์ตัวจริง
คลิกเลย @UFA88SV1

 

90mini.com

90mini.com