บทความฟุตบอล | นักเตะพรีเมียร์ลีก นั้นอัดแน่นไปด้วยผู้เล่นที่น่าตื่นตาตื่นใจ ที่ถูกจับตามองและเป็นข่าวพาดหัวมาโดยตลอด

แต่ก็มีผู้เล่นบางคนที่ ‘ล้มเหลว’ นับตั้งแต่ย้ายมาร่วมลีกสูงสุดของอังกฤษ

บทความฟุตบอล | นักเตะพรีเมียร์ลีก ขึ้นชื่อในเรื่องของความสามารถ เพื่อโชว์ศักยภาพของตัวเองให้มากที่สุด เพื่อเม็ดเงินที่มหาศาลที่พวกเขาจะได้รับจากการเซ็นสัญญาด้วยเงินจำนวนมาก

แต่ค่าตัวมหาศาลเหล่านั้นก็ไม่ได้รับประกันว่าผู้เล่นจะดีพอสำหรับลีกสูงสุดของอังกฤษ ในช่วงหลายปีที่ผ่านมามีความล้มเหลวนับไม่ถ้วน เมื่อเร็วๆ นี้ แจ็ค กรีลิช ย้ายร่วมทีมแมนเชสเตอร์ ซิตี้ ในราคา 100 ล้านปอนด์

และเจดอน ซานโช่ เซ็นสัญญากับแมนเชสเตอร์ ยูไนเต็ด ในราคา 73 ล้านปอนด์ แน่นอนว่าทุกสายตาจะจับจ้องไปที่นักเตะอังกฤษทั้งสองคนที่จะต้องโชว์ฟอร์มเก่งเพื่อป้องกันไม่ให้เหล่านักวิจารณ์หรือแฟนบอลจับจ้อง

ติโม แวร์เนอร์ ของเชลซี ดูเหมือนจะเป็นตัวอย่างของนักเตะรายต่อไปที่จะโดนตราหน้าว่า ‘ล้มเหลว’ แม้ว่าเขาจะไม่ได้ถูกใช้งานในตำแหน่งปีกซ้ายที่เขาชื่นชอบจนกระทั่งเมื่อไม่นานมานี้

อย่างไรก็ดี ยังมีผู้เล่นอีกหลายคนที่ทำผลงานได้ต่ำกว่ามาตรฐานและพบกับความยากลำบากในพรีเมียร์ลีก จนต้องย้ายไปเล่นที่อื่น และนี่ คือ 6 อันดับ ของดาวดังที่เคยล้มเหลวในอังกฤษและ สามารถสร้างชื่อนอกเกาะอังกฤษได้อีกครั้ง

อัลบาโร่ โมราต้า – แอตเลติโก้ มาดริด

อัลบาโร่ โมราต้า กองหน้าชาวสเปน เซ็นสัญญากับเชลซีด้วยค่าตัว 60 ล้านปอนด์ เพื่อเป็นการแสดงถึงเจตนารมณ์อันยิ่งใหญ่ของโรมัน อับราโมวิช เจ้าของทีม แต่โมราต้าไม่เคยตอบแทนศรัทธาที่นักธุรกิจชาวรัสเซียมอบให้

เขาประสบปัญหาเรื่องฟอร์มที่สม่ำเสมอในพรีเมียร์ลีก หลังจากทำได้ 5 ประตูจากการลงเล่น 16 นัดในฤดูกาลสุดท้ายของเขาที่สแตมฟอร์ด บริดจ์ เขาก็ถูกส่งตัวไปแอตเลติโก้ มาดริด แบบยืมตัว

ซึ่งกลายเป็นการย้ายถาวรในเวลาต่อมา โมราต้า สามารถค้นพบฟอร์มของเขาในลา ลีก้า จากนั้นจึงย้ายไปยูเวนตุส ยักษ์ใหญ่ของกัลโช่ เซเรีย อา ที่เขาเล่นอยู่ในปัจจุบัน

หลุยส์ อัลแบร์โต้ – ลาซิโอ

หลังจากสร้างความประทับใจตอนเป็นแข้งดาวรุ่ง ก็ดูเหมือนว่า หลุยส์ อัลแบร์โต้ จะประสบความสำเร็จกับลิเวอร์พูลแน่นอน แต่มันกลับไม่กลายเป็นแบบนั้น หลังจากประสบปัญหาในการเบียดแย่งตำแหน่งฟิลิปเป้ คูตินโญ่

อัลแบร์โต้ก็ถูกปล่อยยืมตัวเป็นเวลาสองฤดูกาลก่อนจะย้ายไปลาซิโอในปี 2016 ด้วยค่าตัวเพียง 3.4 ล้านปอนด์ ดาวเตะชาวสเปนเป็นส่วนสำคัญของสโมสรแห่งอิตาลีตั้งแต่เขามาถึง โดยลงเล่น 143 เกมในลีก

และตกเป็นข่าวเชื่อมโยงกับการย้ายกลับไปเล่นในพรีเมียร์ลีก อยู่หลายต่อหลายครั้ง

เมมฟิส เดปาย – ลียง

ตอนนี้เขากำลังเล่นอยู่ที่บาร์เซโลน่า เมมฟิส เดปาย ถูกคาดหวังเป็นอย่างมากเมื่อเขาเซ็นสัญญากับแมนเชสเตอร์ ยูไนเต็ด สมัยยังเป็นวัยรุ่นที่หน้าจับตามองจากพีเอสวีด้วยค่าตัว 25 ล้านปอนด์

ภายใต้การคุมทีมของหลุยส์ ฟาน กัล กองหน้าสารพัดประโยชน์รายนี้กลับประสบกับความยากลำบาก เขาลงเล่น 33 นัดให้กับปีศาจแดง แต่ยิงได้แค่สองประตูทำให้เขาถูกขายให้ลียงอย่างรวดเร็ว

ในลีก เอิง นักเตะวัย 27 ปีทำไป 63 ประตูจาก 139 นัด และนำทีมสู่ความสำเร็จในยุโรปเช่นกัน

ฮวน กวาดราโด้ – ยูเวนตุส

ฮวน กวาดราโด้ เป็นนักเตะที่มีความเร็วและคล่องแคล่ว เต็มไปด้วยทักษะและพละกำลัง เขามีคุณลักษณะที่เป็นที่ชื่นชอบของแฟนบอลในทุกสโมสร แต่กลับประสบปัญหาอย่างมากในช่วงสองปีที่เชลซี

ระหว่างปี 2015 ถึง 2017 ดาวเตะชาวโคลอมเบียได้ลงเล่นเพียง 15 เกมภายใต้การคุมทีมของโชเซ่ มูรินโญ่ เขาได้สัมผัสถ้วยแชมป์พรีเมียร์ ลีก แต่ลงเล่นเพียง 13 นัดตลอด 2 ปี กวาดราโด้ใช้เวลาสองสามปีในการยืมตัวที่ยูเวนตุส

ก่อนที่จะย้ายไปร่วมทีมแบบถาวรและกลายเป็นหนึ่งในฟูลแบ็คที่ดีที่สุดในลีก การเล่นเป็นแบ็คขวา และบางครั้งก็เป็นวิงแบ็ค ทำให้อดีตปีกซ้ายรายนี้ได้ให้คำนิยามตัวเองใหม่และกลายเป็นกองหลังที่แข็งแกร่งมาก

แต่ยังมีความอันตรายในบริเวณพื้นที่สุดท้ายหน้าปากประตูด้วย เขาคว้าแชมป์เซเรีย อา มาได้ 5 สมัยแล้วนับตั้งแต่ออกจากกรุงลอนดอน

เคราร์ด ปิเก้ – บาร์เซโลน่า

การตราหน้าเคราร์ด ปิเก้ ว่าล้มเหลวจากการลงเล่นให้แมนฯ ยูไนเต็ดเพียง 12 นัดหลังจากเบียดเข้าไปในชุดทีมชุดใหญ่อาจจะค่อนข้างรุนแรงไปหน่อย อย่างไรก็ตาม บาร์เซโลน่าก็มาเซ็นสัญญากับแข้งอะคาเดมี่ของพวกเขาอีกครั้งในปี 2008

หลังจากที่ปิเก้ไม่ค่อยได้ลงสนามที่ โอลด์ แทรฟฟอร์ดและกลายเป็นแนวรับที่แข็งแกร่งของยักษ์ใหญ่แห่งคาตาลัน แข้งวัย 34 คว้าแชมป์ลา ลีก้า ได้ถึง 8 สมัย รวมไปถึงแชมป์ยูฟ่า แชมเปี้ยนส์ ลีก 3 สมัยและถ้วยรางวัลอื่นๆ อีกมากมาย

ปิเก้ยังเป็นกำลังหลักสำคัญในทีมที่นำสเปนคว้าแชมป์ฟุตบอลโลก 2010 ของสเปนและยูโร 2012 และเมื่อไหร่ที่เขาแขวนสตั๊ด ปิเก้จะกลายเป็นตำนานทั้งในระดับสโมสรและระดับชาติอย่างไม่ต้องสงสัย

อังเคล ดิ มาเรีย – ปารีส แซงต์-แชร์กแมง

เมื่อ อังเคล ดิ มาเรีย ย้ายจากเรอัล มาดริด มายังแมนฯ ยูไนเต็ด ด้วยค่าตัว 59.7 ล้านปอนด์ในปี 2014 เหมือนเขาแบกโลกทั้งใบเอาไว้ ในฐานะที่เป็นหนึ่งในการเซ็นสัญญาที่แพงที่สุดตลอดกาล

ดาวเตะชาวอาร์เจนไตน์ได้รับการคาดหมายว่าจะทำประตูได้ในทุกๆ สัปดาห์ แต่ปรากฏว่าเขาทำไม่ได้ ดิ มาเรีย เคยมีช่วงเวลาที่ยอดเยี่ยมในพรีเมียร์ลีกอยู่บ้าง แต่ไม่เคยสถาปนาตัวเองได้อย่างแท้จริงที่โรงละครแห่งความฝัน

และถูกขายให้กับเปแอสเชในราคาที่ขาดทุน 15 ล้านปอนด์หลังจากที่ย้ายมาร่วมทีมได้ไม่ถึงปี นับตั้งแต่ย้ายไปลีก เอิง นักเตะวัย 33 ปีก็กลับสู่สถานะเดิมของเขาคือการเป็นหนึ่งในปีกที่ดีที่สุดในโลกและเป็นบุคคลสำคัญในประวัติศาสตร์

ของการผงาดขึ้นสู่ความรุ่งโรจน์อย่างรวดเร็วของสโมสร โดยคว้าแชมป์ลีกได้ถึงสี่สมัย

ติดตามข่าวสารฟุตบอลไปกับกูรูคาเฟ่ คลิก 

ให้ฟุตบอลเป็นมากกว่ากีฬา
รับทีเด็ดแม่นๆ ส่งตรงจากคอลัมนิสต์ตัวจริง
คลิกเลย @UFA88SV1