บทความฟุตบอล | เมสัน เมาท์ เปิดประวัติตัวรุกกองกลางประจำสิงห์บลู
หลังระเบิดฟอร์มในศึก “นอริช ซิตี้” คว้าแฮทริกแรกได้สำเร็จ
บทความฟุตบอล | เมสัน เมาท์ ในศึก “เชลซี” เจอ “นอริซ ซิตี้” คืนที่ผ่านมานี้ได้สร้างความฮือฮาให้กับแฟนบอล และกุนซือใหญ่ของสโมสรเป็นอย่างมาก หลังระเบิดฟอร์มยิงแฮทริกได้เป็นครั้งแรกในค่ำคืนนั้น และจบศึกด้วยสกอร์ 7-0
ดังนั้น GuRoo Cafe จะพาคุณไปรู้จักกับเจ้าหนูคนนี้ที่เป็นกองกำลังสำคัญคนใหม่ของสโมสรยักษ์ใหญ่แห่งกรุงลอนดอนอย่าง “เชลซี” ถ้าท่านใดอยากรู้แล้วเราไปอ่านกันต่อดีกว่า
ประวัติเจ้าหนูแข้งระเบิด
บทความฟุตบอล | เมสัน เมาท์ เกิดเมื่อวันที่ 10 มกราคม ค.ศ. 1999 ในเมืองพอร์ทสมัธ ประเทศอังกฤษ หนุ่มน้อยมีความคลั่งไคล้ฟุตบอลตั้งแต่เด็ก แต่ทว่าแม่ผู้หวังดีกลับอยากให้ลูกชายของเขาทุ่มเทให้กับการศึกษามากกว่าที่จะเป็นฟุตบอล ซึ่งผู้เป็นพ่อกลับไม่คิดแบบนั้น และต้องการผลักดันให้ลูกเข้าสู่วงการลูกหนังให้จนได้
“เมาท์” ถือว่าเป็นเด็กที่มีความสดใสอยู่ตลอดเวลา ทั้งยังร่าเริง แถมยังเป็นเด็กหนุ่มที่แบ่งเวลาเรียน และการซ้อมฟุตบอลได้เป็นอย่างดี จึงทำให้ฟุตบอลไม่เคยมีผลกระทบต่อการเรียนแต่อย่างใด
ไม่นานนักเจ้าหนูของเราเริ่มมีความต้องการที่จะเรียนรู้ทักษะด้านฟุตบอลอย่างจริงจังมากขึ้น โดยเขางดกิจกรรมอื่น ๆ ทุกอย่างเพื่อทุ่มเวลาให้กับการเล่นฟุตบอลอย่างสุดตัว “เมาท์” ในเวลาไม่นานความทุ่มเทของเขาก็เห็นผล ด้วยการเข้าร่วมอคาเดมี่ของ “เชลซี” ด้วยอายุเพียง 6 ขวบเท่านั้น
ในช่วงที่ “เมาท์” ได้เล่นให้กับทีมในท้องถิ่นอย่าง “บอร์ฮันต์ เอฟซี” ในรุ่นอายุไม่เกิน 6 ปี ด้วยทักษะ และฝีเท้าของเขาเริ่มฉายแววคนเก่ง จนไปสะดุดตาสโมสรยักษ์ใหญ่อย่าง “พอร์ทสมัธ” และ “เชลซี” จนกระทั่งได้รับโอกาศจากผู้คัดสรรค์ของ “สิงห์บลู” ให้เจ้าหนูคนนี้ได้เข้าร่วมทัพ
การที่ “เมาท์” ย้ายเข้ามาในเชลซีที่เป็นจุดที่สูงกว่าย่อมทำให้เขามีความกดดันเป็นอย่างมาก แต่เจ้าหนูคนนี้ก็ยังเชื่อว่าตัวเองจะพัฒนาฝีเท้าให้เทียบเท่ากับเพื่อน ๆ ในทีมได้ ด้วยความฝันที่อยากจะผลักดันตัวเองเข้าสู่ทีมชุดใหญ่ของสโมสร “เชลซี” หากวันใดตารางซ้อมตรงกับทีมชุดใหญ่เขาจะเข้าไปทักทายกับ “จอห์น เทอรรี่” ผู้ที่เป็นกัปตันของสโมสรในตอนนั้นอย่างเสมอ
เจ้าหนุ่มน้อยของเรามีแรงบัลดาลใจไฝ่ฝันอยากที่จะเป็นเหมือนนักฟุตบอลอาชีพรุ่นพี่ในทีมอย่าง “ดาวิด หลุยส์” นักเตะตำแหน่งปราการหลังชาวบราซิลรายนี้อีกด้วย
เส้นทางนักเตะอาชีพที่ไม่ธรรมดา
ในช่วงฤดูการที่ 2014-2015 “เมาท์” ได้มีโอกาศลงเล่นให้สโมสรรุ่น U18 ลงเล่นทั้งหมด 7 เกมด้วยกัน แม่ว่าในพรีซีซั่นช่วงแรกเขาจะได้รับบาดเจ็บก็ตาม แต่เขาก็ยังสามารถกลับมาลงเล่นได้เหมือนเดิม และมีฤดูกาลที่น่าประทับใจ โดยที่ “เมาท์” สามารถทำประตูได้ในเกมที่เอาชนะ “เมนเชสเตอร์ ยุไนเต็ด” ด้วยสกอร์ 5-1 การแข่งขัน “เอฟเอ ยูซ คัพ” และมีบทบาทสำคัญในรอบชิงชนะเลิศของรายการ “ยูฟ่า ยูธ ลีก” โดยได้รับแอสซิส 2 ประตู เอาชนะ “แอนเดอร์เลซต์” ด้วยสกอร์ 3-0
เด็กหนุ่มช่างมีฝีเท้าที่น่าอัศจรรย์ เขาพัฒนาตัวเองแบบก้าวกระโดดจนสามารถขึ้นมาเป็นนักเตะหลักในชุด U18 ได้ในที่สุด “เมาท์” ได้รับเซ็นสัญญานักฟุตบอลอาชีพครั้งแรกในปี 2017 เป็นสัญญาเตะระยะเวลา 5 ปีด้วยกัน ก่อนที่ในซีซั่นถัดมาจะถูกปล่อยตัวไปเก็บเกี่ยวประสบการณ์กับสโมสร “วิเทสส์ อาร์เน่ม”
หลังจากที่ได้เซ็นสัญญานักฟุบอลอาชีพกับทางสโมสรเป็นระยะเวลา 5 ปีแล้ว ในช่วงฤดูการที่ 2017-2018 ได้ย้ายมาเข้าร่วมกับทางสโมสร “วิเทสส์ อาร์เน่ม” ในสัญญายืมตัว
ในการย้ายไปเล่นให้ทาง “วิเทนสส์ อาร์เน่ม” ก็ถือว่าเป็นการเก็บเกี่ยวประสบการณ์ที่จะช่วยให้เขาพัฒนาเป็นอย่างมาก เพราะช่วงนั้นเขาสามารถทำให้สโมสร มีโอกาศเข้าร่วมการแข่งขัน “ยูโรป้า ลีก” ได้สำเร็จ อีกทั้ง “เมาท์” ยังได้ลงเล่นในตำแหน่งกองกลางในตำแหน่งของหมายเลข 10 ได้อย่างดีเยี่ยม และทำประตูไปทั้งหมด 14 ประตู
นอกจากนี้การลงสนามของเขาก็ได้รังสรรค์เกม และฝีเท้าออกมาได้อย่างโดดเด่น ซึ่งก็ส่งผลให้รางวัลนักเตะยอดเยี่ยมประจำปีแห่งสโมสร “วิเททส์ อาร์เน่ม” ไปโดยปริยาย ก่อนที่จะกลับคืนสู่รังจริงในถิ่น “แสตมฟอร์ด บริดจ์”
ฝึกทักษะจากตำนานของ “เชลซี”
ในเดือนกรกฏาคม ปี 2018 เขาได้รับข้อเสนอหยิบยืมตัวจากทีม “คาร์บี้ เคาน์ตี้” ที่ตอนนั้นมีอดีตตำนานของเชลซีอย่าง “แฟรงค์ แลมพาร์ด” ประจำการอยู่ในฐานะผู้จัดการทีม
โดย “แลมพาร์ด” ได้มองเห็นแววของเจ้าหนูคนนี้ตั้งแต่สมัยที่เขายังคงทำงานให้กับ “สิงห์บลู” เมื่อได้มีโอกาศมาทำงานร่วมกันเขาจึงไม่รอช้าที่จะให้โอกาสกับ “เมาท์” เพื่อขัดเกราฝีเท้า และต้องการดันให้ดาวรุ่งรายนี้ก้าวขึ้นสู่เวทีนักเตะระดับตำนานของชาติอังกฤษให้ได้ เจ้าหนูของเราได้เข้ามาเป็นนักเตะหลักของสโมสร “ดาร์บี้ เคาน์ตี้” แถมยังสามารถคว้าใจแฟนบอลได้อย่างรวดเร็วอีกต่างหาก นอกจากนี้แล้วเขาคือใจกลางความสำคัญในการทำทีมของ “แลมพาร์ด” และยังเป็นส่วนช่วยให้ทีมมีสิทธิ์ลุ้นเลื่อนชั้นมาเล่นในพรีเมียร์ลีกได้อีกด้วย
ในระหว่างที่ “เมาท์” กำลังแข่งขันอยู่ในลีก “แชมป์เปี้ยนส์ ชิพ” เขาได้รับทักษะจากนักเตะรุ่นพี่ระดับตำนานอย่าง “แลมพาร์ด” โดยตรง ไม่ว่าจะเป็นกรฝึกฝน หรือการชี้นำต่าง ๆ ซึ่งในฤดูการดังกล่าว เขาได้มองเห็นถึงโอกาสที่จะเข้าสู่ตำแหน่งนักเตะตัวจริงในรัง “แสตมฟอร์ด บริดจ์” ได้ จากการที่แฟรงค์ แลมพาร์ด ได้ตัดสินใจย้ายเข้ามาคุมทีมในสโมสร “เชลซี”
เมื่อ “แลมพาร์ด” ได้ย้ายเข้ามาคุมสโมสร “เชลซี” ก้ไม่รอช้าที่จะดึงตัวเจ้าหนู “เมาท์’ มาเป็นตัวหลักของทีม และยังคอยออกคำสั่งในช่วงกลางสนาม นั่นก็ส่งผลให้เจ้าหนูคนนี้กลายเป็นหนึ่งในตัวเตะคนสำคัญของทีม ที่ทาง “สิงหบลู” ขาดไม่ได้แน่ ๆ ในเวลานี้ ถึงแม้ในช่วงต้นฤดูการ “เชลซี” จะพ่ายแพ้มาตลอดก็ตาม แต่นั่นก็ไม่ใช่ในตอนที่เหล่าบรรดาสิงห์น้อยที่แววราชสีห์ถูกดึงตัวกลับมาจากการปล่อยยืม และยังสามารฟอร์มทีมให้เข้ากันได้อย่างดี ทำให้ตอนนี้ สโมสร “เชลซี” กลับมาผงาดอีกครั้ง และกลายเป็นทีมม้ามืดที่มาแรงในตอนนี้
เทคนิคการเล่นที่มักจะสร้างสรรค์เกมรุก ทำให้เหล่าบรรดาสื่อต่าง ๆ และแฟนบอล “เชลซี” ขนานนามให้กับเจ้าหนูคนนี้ว่า “แฟรงค์ แลมพาร์ดคนใหม่” ถึงแม้ว่าเขาจะยังไม่ได้พิสูจน์อะไรให้กับทางสโมสรได้เห็นมากมายนัก แต่เรายืนยันได้เลยว่าเจ้าหนูคนนี้อันตราย เขาคือสิงห์โตน้อยที่เร่าร้อนตลอดเวลา ซึ่งมันบ่งบอกได้เลยว่าเขาจะกลายมาเป็นตำนานคนใหม่ของทีมได้อย่างแน่นอน
ติดตามข่าวสารฟุตบอลไปกับกูรูคาเฟ่ คลิก
ให้ฟุตบอลเป็นมากกว่ากีฬา
รับทีเด็ดแม่นๆ ส่งตรงจากคอลัมนิสต์ตัวจริง
คลิกเลย @GURUCAFEV2
