บทความฟุตบอล | ชาร์ลส์ เด เคเตแลเร่ ว่าที่ดาวรุ่งดวงใหม่ จาก “เบลเยี่ยมโปรลีก”

บทความฟุตบอล | ชาร์ลส์ เด เคเตแลเร่

บทความฟุตบอล | ชาร์ลส์ เด เคเตแลเร่ ว่าที่ดาวรุ่งดวงใหม่
ที่แฟนบอลยกยอให้เป็นผู้สืบทอดบัลก์ต่อจาก เควิน เดอ บรอยน์?!

บทความฟุตบอล | ชาร์ลส์ เด เคเตแลเร่ ทำไมถึงถูกยกย่องว่าเป็นผู้สืบจาก “เควิน เดอ บรอยน์” ประเด็นแรกเลยก็คือ “เดอะ บรอยน์” เป็นผู้ที่ช่วยทำให้ ตัวรุกวัย 20 ปี รายนี้ทำประตูแรกในทีมชาติกับศึกชิงอันดับที่ 3 ในการแข่งขัน “ยูฟ่า เนชั่นส์ ลีก” พบ อิตาลี่ ก่อนหน้านี้

ถึงแม้ว่านั่นก็เป็นประตูที่ให้กำลังใจสำหรับ “ทีมชาติเบลเยี่ยม” ได้พ่ายไปด้วยสกอร์ 2-1 แต่ทว่าผลงานที่เข้าได้สร้างไว้ในการแข่งขันในครั้งนี้ ทำให้ผู้คนมากมายต่างคาดการณ์ว่าเขาจะต้องเป็นแข้งทองรายใหม่ในวงการลูกหนัง

ในตอนนี้ “คิงชาร์ลส์” ได้มีชื่อเสียงค่อนข้างมากแล้วในชาติเกิดของเขา แต่ยืนคู่กับรุ่นพี่อย่าง “เดอ บรอยน์” ในการแข่งขัน “แชมป์เปี้ยนส์ลีก” ระหว่าง “คลับ บรูซ” พบ “แมนเชสเตอร์ ซิตี้” ในวันอังคารที่ผ่านมา น่าจะเรียกแสความนิยมจากแฟนบอลทั่วยุโรปได้มากขึ้น

 “Prince” to “King” 

บทความฟุตบอล | ชาร์ลส์ เด เคเตแลเร่

ถ้าหากเรามองย้อนกลับไป “เด เคเตลาเร่” ได้ประกาศสักดาให้คนรู้จักเป็นครั้งแรกก็น่าเป็นช่วง 2 ปีที่แล้ว ด้วยการลงเล่น 2 นัด ให้กับ “คลับ บรูซ” ในการแข่งขัน “เบลเยี่ยม คัพ” และในการแข่งขัน “แชมป์เปี้ยน ลีก” ที่พ่ายให้ “ปารีส แซงต์ แชร์กแมง”

ในช่วงแรกได้ถูกตั้งฉายาให้ว่า “เจ้าชายชาร์ลส์” แต่ฉายานี้ก็อยู่ได้นาน เพราะเขาถูกแฟนสถาปนาฉายาให้ครั้งจาก เจ้าชายสู้ราชา โดยเกิดขึ้นหลังจากที่เขายิงประตูในช่วงทดเวลาทำให้ทีมชนะ “เซนิต เซนต์ ปีเตอร์สเบิร์ก” ไปในที่สุด และหลังจากนั้นชื่อของเขาก็ถูกพ่นลงกำแพงใกล้ ๆ บ้านของเขา ซึ่งไม่ห่างจาก “ยาน เบรย์เดล สเตเดี้ยม” ซักเท่าไหร่

ว่าที่อนาคตแข้งทองฟุตบอลเบลเยี่ยมรายนี้เป็นเด็กพื้นที่ ที่เติบโตมากับสโมสรฟุตบอลตั้งแต่วัยเด็ก อีกทั้งเขายังมีนักฟุตบอลในดวงใจจาก “คลับ บรูซ” อีกด้วย ซึ่งจะสังเกตุได้จากห้องนอนของเขาจะมีโปสเตอร์ของนักเตะจากสโมสรมากมาย

เริ่มแรกที่ “ชาร์ลส์” เข้สร่วมอคาเดมี่ของสโมสรด้วยวัยเพียง 7 ขวบเท่านั้น ซึ่งก่อนหน้านี้เขาเคยได้เคยผ่านกีฬาอย่างเทนนิสมาก่อน แต่สุดท้ายเด็กน้อยคนนี้ก็เลือกเส้นทางลูกหนังมากกว่าการหวดลูกสักหลาด ถึงแม้ว่าเขาจะประสำความสำเร็จในเส้นทางของเทนนิสด้วยการคว้าแชมป์เยาชนระดับภูมิภาคมาแล้วก็ตาม

ในช่วงแรกเขาไม่ได้รับเลือกให้เป็นนักเตะที่ฝีเท้าที่เก่งแต่งอย่างใด นั่นก็เพราะว่า “ชาร์ลส์” เป็นเด็กที่มีร่างกายที่โตไวเกินไป ทำให้ร่างกายของเขาเกิดอาการบาดเจ็บได้ง่าย และมันส่งผลให้เขาไม่สามารถฝึกฝีเท้าได้อย่างต่อเนื่อง แต่สุดท้ายอุปสรรค์เหล่านั้นก็ไม่สามารถขวางเขาได้อีกต่อไป

ด้วยความราว ๆ 192 เซนติเมตร นั่นก็ทำให้เขาโดดเด่นมากกว่านักเตะในรุ่นเดียวกันแล้ว พร้อมกับการพัฒนาฝีเท้าได้อย่างเฉียบคมขึ้นเรื่อย ๆ และเมื่อเขาอายุได้ 18 ปี ก็ได้มีโอกาสครั้งใหม่เข้ามาด้วยกการดวลแข้งกับเล่าบรรดาหัวกระทิจากยุโรปนับหลายคนด้วยกัน

ในช่วงปี 2020 เด็กหนุ่มดาวรุ่งรายนี้ก็เป็นที่หลงไหลของแฟนบอลเบลเยี่ยมทั้งประเทศ ด้วยฝีเท้าที่ดูงดงาม ชั้นเชิงที่สร้างสรรค์ และเทคนิคอันยอดเยี่ยม ถึงแม้ว่าร่างกายของเขาจะใหญ่โตเพียงใด แต่นั่นแหละจะเป็นจุดเด่นสำคัญที่ผู้คนต่างพูดถึง

ดาวรุ่งวัย 20 ปี ซัดเต็มข้อไป 3 ประตูเต็มในศึก “เซนิต” ในช่วงฤดูการที่ผ่านมา และชื่อของเขาเกือบได้ไปติดอยู่บนสกอร์บอร์ดอีกครั้ง เมื่อ “คลับ บรูซ” ต้องพบกับ “ลาซิโอ” ซึ่งเป็นศึกที่ต่างผ่านไปให้ได้เพื่อเข้ารอบ 16 ทีมสุดท้าย ในการแข่งขัน “แชมป์เปี้ยน ลีก” แต่มันก็น่าเสียดายที่ลูกเตะที่ทรงพลังของเขากลับไปชนคานเข้าเต็ม ๆ จนหล่นไปแข่งขนใน “ยูโรป้าลีก” และได้ตกรอบ 32 ทีมสุดท้าย

หนุ่มน้อยดาวรุ่งผู้เขินอาย

บทความฟุตบอล | ชาร์ลส์ เด เคเตแลเร่

หลังจากผ่านไปไม่นาน เขาได้ขึ้นมาเป็นนักฟุตบอลคนที่ 5 ของประวัติศาสตร์ที่ได้รับรางวัล “Talent of the year” จากประเทศเบลเยี่ยม ซึ่งจัดตั้งขึ้นเมื่อปี 1998 และจะมอบรางวัลนี้ให้กับนักกีฬาที่มีแววฉายแสง และรางวัลนี้ก็มีรุ่นพี่นักเตะรายหลายที่ได้รับกันไปก็อาทิเช่น โรเมลู ลูกากู, ดิว็อค โอริกี้ และ คิม ไคลจ์สเตอร์ส อดีตนักเทนนิสหญิงเจ้าของแชมป์แกรนด์สแลม 4 สมัย

แต่ความสำเร็จในครั้งนี้ก็ไม่ทำให้เด็กหนุ่มเสียความเป็นตัวเองไปแต่อย่างไร “ชาร์ลส์” ยังคงอาศัยอยู่กับผู้เป็นแม่ และยังคงใช้ชีวิตตามปกติอย่างที่เคยเป็น แถมเขามักจะไม่กล้าสู้หน้ากับเหล่าบรรดาเหล่าแฟนบอลมาขอถ่ายรูปด้วยซักเท่าไหร่

นอกจากกีฬาฟุตบอล ก็ยังมีกีฬาปาเป้าที่มักจะตามไปแข่งอยู่บ่อยครั้ง รวมไปถึงจะสนใจเรียนรู้ด้านกฏหมายอีกด้วย แต่ท้ายสุดเขาก้ได้พักการเรียนที่มหาวิทยาลัยไว้เพียงเท่านั้น เพราะว่าเขาได้สร้างชื่อเสียงในกีฬาฟุตบอลได้มากจนกลายเป็นจุดสนใจไปแล้ว

ดาวรุ่งรายนี้ไม่ต้องการเป็นคนดัง หรือเป็นจุดสนใจของผู้คน เขาต้องการเพียงชีวิตที่เรียบง่ายอย่างเคย ที่ทำให้เคยไม่รู้สึกหม่า ซึ่งเขาก็ทำให้เกมในสนามดูเรียบง่ายไปด้วย อาจจะดูเฉยเมยไปเลยด้วยซ้ำ”

ปัจจุบันนี้ “ชาสร์ลส์” ในทำผลงานในเส้นทางฟุตบอลอาชีพไว้ทั้งหมด 98 เกม , แชมป์ลีก 2 สมัยในเบลเยี่ยม และคว้าถ้วนซูเปอร์ คัพ ที่ได้ทำผลงานร่วมกับทีม ซึ่งมันก็ไม่น่าแปลกใจซักเท่าไหร่ที่หลาย ๆ ฝ่ายจะมุ่งความสนใจมาที่เขาอย่างใกล้ชิด แม้ว่าเขาจะเป็นผู้เล่นตำแหน่งกองหน้าเป้าด้วยก็ตาม

 

ติดตามข่าวสารฟุตบอลไปกับกูรูคาเฟ่ คลิก 

ให้ฟุตบอลเป็นมากกว่ากีฬา
รับทีเด็ดแม่นๆ ส่งตรงจากคอลัมนิสต์ตัวจริง
คลิกเลย @GURUCAFEV2