บทความฟุตบอล กาลาตาซาราย หนึ่งในสโมสรแนวหน้าของตุรกี
เกิดอะไรขึ้น? หลังจากฟอร์มเตะกำลังดิ่งลงอย่างเห็นได้ชัด
บทความฟุตบอล กาลาตาซาราย หนึ่งในสโมสรที่ประสบความสำเร็จมากที่สุดในประวัติศาสตร์ของ “ซูเปอร์ลีก” และพวกเขายังเป็นเพียงสโมสรเดียวในตุรกี ที่เคยคว้าแชมป์ ยุโรป มาครองได้สำเร็จ แต่ทว่าเมื่อฤดูกาลที่แล้ว พวกเขานั้นพลาดตำแหน่งแชมป์ลีกด้วยสกอร์เพียงลูกเดียว นับว่าเป็นฤดุกาลที่เลวร้ายที่สุดของพวกเขาเลยก็ว่าได้
นอกจากจะหล่นจาก “ยูโรปาลีก” ด้วยฝีมือของ “บาร์เซโลนา” แล้ว “กาลาตาซาราย” ตอนนี้รั้งอันดับที่ 11 ใน “ซูเปอร์ลีก” พวกเขามีเพียง 32 แต้มเท่านั้น หลังหัวตารางอย่าง “แทรปซอนสเปอร์” และอยู่ใกล้กับโซนหนีตกชั้นมากกว่าอันดับที่จะได้เล่นฟุตบอลใน “ยุโรป” เสียอีก และยิ่งไปกว่านั้นในช่วงสิ้นเดือนมกราคมที่ผ่านมา พวกเขามีคะแนนเหนือโซนหนีตกชั้นเพียง 3 แต้มเสียด้วยซ้ำ
หากเราจะพูดให้ทุกท่านได้เห็นภาพได้ชัดเจนขึ้นละก็ “กาลาตาซาราย” เคยตกต่ำที่สุดก็เมื่อ 40 ปีที่แล้ว ด้วยการจบอันดับที่ 11 ในขณะที่พวกสามารถคว้าแชมป์ลีกมาได้ถึง 22 ครั้ง นับตั้งแต่ก่อตั้งสโมสรมในปี 1959 และจบอันดับท็อป 3 ในตารางได้มากถึง 51 จาก 65 ฤดูกาล
เรื่องแบบนี้ไม่เคยเกิดขึ้นกับ “กาลาตาซาราย” มาก่อน แต่ที่มันกิดขึ้น เพราะการจัดการที่ไม่รอบคอบมาหลายปีดีดัก การจากไปของตำนานสโมสร วิกฤตการเงินทั่วประเทศ และปัจจัยอื่น ๆ อีกมากมายที่พวกเขายังต้องเจออีก
นี่อาจไม่ใช่ปัญหาที่พบเจอเพียงชั่วครู่แล้วก็ผ่านไป แต่นี่มันเปรียบเสมือนกับการปรับตัวใหม่ของ “ลีก ตุรกี” เพราะทั้ง “เบซิคตัส” และ “เฟเนร์บาห์เช” ยักษ์ใหญ่จาก “อิสตันบูล” ที่เคยคว้าแชมป์ลีกรวมกันถึง 57 สมัย ในตอนนี้ก็กำลังอยู่ในช่วงที่ยากลำบากไม่แพ้กัน
ด้วยปัญหาทางด้านการเงินของ “กาลาตาซาราย” ในตอนนี้ จึงทำให้พวกเขาไม่สามารถเซ็นสัญญากับ “เก็ดสัน แฟร์นันเดส” กองกลางตัวยืมที่ยกระดับทีมของพวกเขามาได้เมื่อฤดูกาลที่ผ่านมา ขณะที่เหล่านักเตะหน้าใหม่หลาย ๆ รายมีเพียง “บาเฟติมบี โกมิส” ที่ย้ายมาในตลาดหน้าหนาวคนเดียวที่พอจะทำผลงานได้อยู่บ้าง
อาการบาดเจ็บก็นับว่าเป็นอีกหนึ่งปัญหาใหญ่ที่ต้องพบเจอ โดยเฉพาะอย่างยิ่งเมื่อผู้รักษาประตู และกัปตันทีมอย่าง “เฟร์นานโด มุสเลรา” ได้รับบาดเจ็บตั้งแต่เดือนธันวาคมปีที่ผ่านมา ตามมาด้วยกองหลังอย่าง “มาร์เกา” ที่ถูกแบนไม่ให้ลงสนามถึง 6 เกม จากเหตุการณ์การทำร้ายร่างกายเพื่อนร่วมทีม และนั่นมันก็ยิ่งทำให้สถานการณ์ภายในทีมนั้นยิ่งแย่ลงไปอีก
นอกจากนี้แล้วกุนซือระดับตำนานอย่าง “เฟติห์ เทอริม” ที่คุมทัพมาแล้วถึงสีครั้งเคยพาทีมคว้าแชมป์ลีกได้ถึง 8 สมัย ก็ยังไม่รอดจากการโดนปลดเมื่อพาทีมรั้งอันดับที่ 12 เมื่อต้นปีที่ผ่านมา ท่ามกลางกระแสความไม่พอใจจากเหล่าบรรดาแฟนบอลที่นัดกันสวมหน้ากาก “เทอริม” เข้าสนามในเกมเหย้าถัดมาพร้อมกับเสียงตะโกนโห่ไล่หลัง หลังต่อว่าประธานสโมสรคนใหม่อย่าง “บูรัค เอลมาส” ที่ไม่สามารถทำในสิ่งที่เคยสัญญาเอาไว้ในขณะหาเสียงได้ ทั้งเรืองผลงานในสนาม และเรื่องการหาเงินนอกสนาม
และเราก็ยังเชื่อว่าในซักวันหนึ่งพวกเขาจะหวนกลับมาทวงคืนความยิ่งใหญ่อีกครั้ง แต่ ณ ตอนนี้ก็ยังคงไม่มีใครสามารถคาดเดาได้เลยว่ามันจะใช้เวลานานถึงเพียงใด
ติดตามข่าวสารฟุตบอลไปกับกูรูคาเฟ่ คลิก
ให้ฟุตบอลเป็นมากกว่ากีฬา
รับทีเด็ดแม่นๆ ส่งตรงจากคอลัมนิสต์ตัวจริง
คลิกเลย @UFA88SV1