โธมัส ทูเคิ่ล กุนซือใหม่ป้ายแดงของ เชลซี ประเดิมการคุมทีมเกมแรกเป็นที่เรียบร้อย ด้วยการเปิดสแตมฟอร์ด บริดจ์เสมอกับ วูล์ฟแฮมป์ตัน ไป 0-0 แม้ผลการแข่งขันอาจจะไม่ค่อยน่าพอใจเท่าไหร่ แต่รูปแบบการเล่นของ เชลซี ในเกมนี้ดูมีความน่าสนใจมากเลยทีเดียว เกมนี้พวกเขาผ่านบอลไปถึง 820 ครั้งและครองบอลได้ถึง 78.9% น่าสนใจมากว่าถ้า ทูเคิ่ล ได้ปรับจูนทีมจนลงตัวแล้ว เชลซี จะกลายเป็นทีมที่เล่นฟุตบอลได้สวยงามขนาดไหน
แต่สิ่งหนึ่งที่แฟนบอลเชลซีมักจะถามตัวเองอยู่เสมอ เวลาที่มีการแต่งตั้งผู้จัดการทีมคนใหม่ก็คือ โค้ชคนนี้จะอยู่ได้สักกี่ปี เพราะตั้งแต่ โรมัน อับราโมวิช เข้ามาเทคโอเวอร์สโมสรเมื่อปี 2003 โชเซ่ มูรินโญ่ คือโค้ชที่ได้คุม เชลซี นานที่สุด ในการคุมทีมรอบแรกของเขาที่อยู่กับทีมได้ 3 ปีกว่า นอกจากนั้นไม่เคยมีผู้จัดการทีมคนไหนที่อยู่กับทีมได้นานกว่านี้เลย แม้แต่ตัว มูรินโญ่ เองที่กลับมาคุมทีมรอบสองก็ตาม และเมื่อได้ย้อนดูประวัติของ ทูเคิ่ล แล้วก็น่าคิดว่าเค้าจะอยู่คุม เชลซี ได้สักกี่ปี เพราะเขาขึ้นชื่อเรื่องเป็นคนที่หัวแข็ง และไม่เคยเกรงกลัวการที่จะต้องงัดข้อกับผู้บริหารสโมสร ตลอดชีวิตการคุมทีมของ โธมัส ทูเคิ่ล ทุกครั้งที่เขาแยกทางกับสโมสร ไม่ว่าจะเป็น ไมนซ์, ดอร์ทมุนด์ และ เปแอสเช ไม่ได้เกิดจากการที่เขาทำผลงานได้ไม่ดีเลย แต่เป็นเพราะเค้ามีปัญหากับผู้บริหารทีมจนต้องแยกทางกันต่างหาก
ตอนที่คุม ไมนซ์ ในฤดูกาล 2013-14 ทูเคิ่ล พาทีมจบอันดับ 7 ได้โควต้าไปเล่น ยูโรป้า ลีก ทำให้เขาได้เรียกร้องให้ประธานสโมสร แฮรอลด์ สตรัดซ์ ลงทุนกับการซื้อนักเตะมาเสริมทีมให้มากขึ้น หลังจากที่ผ่านมาทีมใช้เงินซื้อนักเตะอย่างจำกัดมาตลอด แต่อย่างไรก็ตามประธานสโมสรได้ปฏิเสธคำขอของเขา ทำให้หลังจบฤดูกาลนั้น เขาตัดสินใจแยกทางกับสโมสรทันที หลังจากแยกทางกัน แฮรอลด์ สตรัดซ์ ได้ให้สัมภาษณ์ว่าในระหว่างฤดูกาล ทูเคิ่ล ได้แอบคุยกับสโมสรอื่นลับหลังเขา ซึ่งในเวลานั้นมีข่าวว่า ทูเคิ่ล ได้รับความสนใจจาก ชาลเก้ และ เลเวอร์คูเซ่น
ส่วนกับ ดอร์ทมุนด์ ในฤดูกาล 2016-17 เข้าพาทีมจบอันดับ 3 ในลีก นอกจากนั้นยังพาทีมได้แชมป์ เดเอฟเบ โพคาล ด้วย แต่
หลังจากได้แชมป์เพียง 3 วัน สโมสรก็ประกาศปลดเขาออกจากตำแหน่ง มีรายงานว่า ทูเคิ่ล มีความขัดแย้งกับผู้บริหารของทีมอย่าง ฮันส์-โยอาคิม วัตซ์เค่ ซีอีโอของทีม มิชาเอล ซอร์ค ผู้อำนวยการกีฬา และ สเวน มิสลินทัต หัวหน้าแมวมองของทีมเรื่องการซื้อขายนักเตะ
สื่อของเยอรมันรายงานว่า มิสลินทัต ได้แนะนำให้ทีมซื้อ โอลิเวอร์ ตอร์เรส ที่ตอนนั้นเล่นให้กับ แอตฯ มาดริด แต่ ทูเคิ่ล ไม่เห็นด้วย สุดท้ายดีลนั้นก็ไม่เกิดขึ้น นอกจากนี้ตอนที่ทีมซื้อ อเล็กซานเดอร์ อิซัค กองหน้าดาวรุ่งชาวสวีเดนมาร่วมทีม ทูเคิ่ล ก็ให้สัมภาษณ์กับสื่อว่า เค้าไม่รู้เรื่องอะไรกับดีลนี้เลย
อย่างไรก็ตามประเด็นที่น่าจะเป็นจุดแตกหักของ ทูเคิ่ล กับผู้บริหารดอร์ทมุนด์ก็คือการที่เค้าต้องนำทีมเตะกับ โมนาโก ในเกมแชมเปี้ยนส์ ลีก หลังจากที่เกิดเหตุระเบิดใกล้รถบัสทีมเพียง 1 วันเท่านั้น เหตุระเบิดครั้งนี้ทำให้ มาร์ค บาร์ตร้า กองหลังของทีมข้อมือหักจนต้องเข้ารับการรักษาด้วยการผ่าตัด
แน่นอนว่าการตัดตินใจเลื่อนเกมมาเตะหลังจากเกิดเหตุเพียง 1 วัน เป็นการตัดสินใจของทาง ยูฟ่า ในระหว่างเกมแฟนบอลดอร์ทมุนด์ก็ทำป้ายข้อความต่อว่ายูฟ่าที่ให้เกมเตะหลังเหตุระเบิดเพียงวันเดียว
หลังจากจบเกมที่ ดอร์ทมุนด์ แพ้คาบ้านให้กับ โมนาโก ไป 2-3 ทั้ง ทูเคิ่ล และ โซคราติส กองหลังอีกคนของทีมก็ได้ต่อว่ายูฟ่าว่าไม่มีความเห็นใจนักเตะเลย ให้เตะทั้งที่ทีมเพิ่งผ่านเหตุการณ์ที่ทำให้สะเทือนใจมา ส่วน นูริ ซาฮิน กองกลางของทีมที่ในเกมมีชื่อเป็นตัวสำรองก็ให้สัมภาษณ์ว่าเขาไม่มีสมาธิกับเกมเลย ในหัวของเค้ายังคงมีแต่ภาพเหตุการณ์ระเบิด และกลับมาคิดถึงเรื่องเกมอีกครั้งก็ตอนที่เค้าถูกเปลี่ยนตัวลงสนามไปแล้ว
หลังจากที่ถูกตำหนิจากหลายฝ่าย ยูฟ่าก็ได้ออกมาแถลงการณ์ว่าการตัดสินใจเลื่อนแข่งมาเพียง 1 วัน ได้รับความเห็นชอบจากทั้งสองสโมสรแล้ว และไม่มีทีมใดบอกพวกเขาเลยว่าไม่ต้องการลงเล่นเกมนี้ แน่นอนว่าคนของทาง ดอร์ทมุนด์ ที่ตัดสินใจลงเล่นเกมนี้ ไม่ใช่ทาง ทูเคิ่ล ที่เป็นโค้ชแน่นอน แต่เป็นทาง วัตซ์เค่ ที่เป็นซีอีโอของทีม วัตซ์เค่ ได้ให้สัมภาษณ์ถึงเหตุการณนี้ว่าในตอนแรกเขาเคยคิดว่า ดอร์ทมุนด์ ควรจะถอนทีมออกจากรายการนี้ไปเลยมั้ย แต่ถ้าเขาตัดสินใจอย่างนั้นจะเป็นชัยชนะของผู้ก่อเหตุ นั่นทำให้เขาไม่ปฏิเสธที่ทีมต้องเตะหลังจากเกิดเหตุเพียง 1 วัน เพื่อแสดงว่าทีมของเขาจะไม่ยอมแพ้ให้กับการก่อการร้ายครั้งนี้ ความแตกต่างทางความคิดครั้งนี้ถือเป็นจุดแตกหักครั้งสำคัญระหว่าง ทูเคิ่ล และผู้บริหารของดอร์ทมุนด์ซึ่งส่งผลให้เขาถูกปลดจากตำแหน่งในที่สุด แม้ว่าจะพาทีมคว้า แชมป์ เดเอฟเบ โพคาล ก็ตาม
และล่าสุดกับ เปแอสเช แน่นอนว่าผลงานที่ทำให้ ทูเคิ่ล ได้รับการยกย่องมากกว่าโค้ชคนอื่นๆของ เปแอสเช ก็คือในฤดูกาลล่าสุดที่นอกจากจะพาทีมกวาด 3 แชมป์ในประเทศแล้ว เขายังสามารถพาทีมเข้าชิงแชมเปี้ยนส์ ลีกได้เป็นครั้งแรกในประวัติศาสตร์สโมสรด้วย
ในช่วงต้นฤดูกาลนี้เขายังทำผลงานได้ดี เปแอสเช ยังอยู่ในข่ายทีมลุ้นแชมป์ แม้ว่าจะแพ้ไปแล้ว 4 เกม แต่ส่วนหนึ่งก็มาจากปัญหาผู้เล่นติดโควิดหลายคนในช่วงเริ่มฤดูกาล ทำให้ ทูเคิ่ล ไม่สามารถจัดทีมชุดที่ดีที่สุดได้ นอกจากนี้เขายังพาทีมผ่านเข้าไปเล่นแชมเปี้ยนส์ ลีกรอบ 16 ทีม ในฐานะแชมป์กลุ่ม กรุ๊ป ออฟ เดธ ที่มีทีมอย่าง ไลป์ซิก และ แมนฯ ยู ร่วมกลุ่มด้วย
แต่อย่างไรก็ตามเค้าก็มีปัญหาเดิมๆกับผู้บริหารสโมสรอีกครั้ง ทูเคิ่ล มีปัญหาขัดแย้งกับ เลโอนาร์โด้ ผู้อำนวยการสโมสรเรื่องการซื้อนักเตะมาเสริมทีม โดยในช่วงซัมเมอร์ 2020 เปแอสเช ต้องเสียนักเตะคนสำคัญอย่าง ติอาโก้ ซิลวา และ เอดินสัน คาวานี่ โดยทั้งสองคนถือเป็นแกนหลักของทีมมาหลายปี ในรายของ คาวานี่ นั้นอาจจะไม่ค่อยมีผลกระทบเท่าไหร่ เพราะทีมมี เมาโร อิคาร์ดี้ ที่ขึ้นมาเป็นกองหน้าตัวหลักแทนแล้ว แต่ในรายของ ติอาโก้ ซิลวา นั้น ทูเคิ่ล ต้องการให้สโมสรซื้อกองหลังที่มีประสบการณ์และความเป็นผู้นำมาแทนที่ โดยเขาเล็งไปที่ อันโตนิโอ รูดิเกอร์ กองหลังของ เชลซี ที่ตอนนั้นดูเหมือนไม่เป็นที่ต้องการของทีมแล้ว อย่างไรก็ตาม เลโอนาร์โด้ กลับไปเซ็นสัญญายืมตัว ดานิโล่ เปเรย์ร่า มิดฟิลด์ตัวรับจาก ปอร์โต้ มาร่วมทีมแทน เพราะเค้ามองว่านี่คือนักเตะที่ทีมต้องการมากกว่า สุดท้าย ทูเคิ่ล ก็ต้องใช้งาน ดานิโล่ เปเรย์ร่า จริงๆ โดยจับนักเตะไปเล่นกองหลังซะเลย เหมือนเป็นการประชด เลโอนาร์โด้ กลายๆ
แต่ประเด็นที่เป็นจุดแตกหักของ ทูเคิ่ล กับผู้บริหารเปแอสเชนั้นก็คือการที่เค้าไปให้สัมภาษณ์กับสื่อเยอรมันอย่าง Sport1 ก่อนเกมที่จะเปิดบ้านพบกับ สตราส์บูร์ก ทำนองว่าเขาถามตัวเองว่าการทำงานที่ เปแอสเช เค้ามาเป็นโค้ชหรือเป็นนักการเมืองในวงการกีฬากันแน่ บทบาทของเขากับสโมสรคือตรงไหน ประกอบกับก่อนหน้านี้ที่เขามักจะให้สัมภาษณ์วิจารณ์การทำงานของผู้บริหารสโมสรเรื่องการเสริมทีม ทำให้หลังจบเกมที่เปิดบ้านชนะ สตราส์บูร์ก 4-0 เพียงแค่ 1 วัน ก็มีข่าวลือหนาหูว่า เปแอสเช จัดการปลด ทูเคิ่ล ออกจากตำแหน่งแล้ว และหลังจากนั้นไม่กี่วันก็มีการยืนยันจากสโมสรอย่างเป็นทางการว่าพวกเขาปลด ทูเคิ่ล เรียบร้อยแล้ว
แม้ว่าจะชอบมีปัญหากับผู้บริหารสโมสร แต่สิ่งที่ทำให้ ทูเคิ่ล ยังคงได้รับความสนใจจากทีมใหญ่อยู่เสมอ ก็คือฝีมือในการคุมทีมที่ยอดเยี่ยมของเขา ฟุตบอลของเขามีเกมรุกที่สวยงาม เขาได้รับการยอมรับว่าเป็นโค้ชที่เก่งในเรื่องการดึงศักยภาพสูงสุดในตัวนักเตะ นอกจากนี้ด้วยการที่เคยเป็นโค้ชทีมเยาวชนมาก่อน ทำให้เขามักจะผลักดันผู้เล่นดาวรุ่งให้ขึ้นมาเล่นในทีมชุดใหญ่อยู่เสมอ
ตอนที่คุม ไมนซ์ ในฤดูกาล 2010-11 เขาผลักดันผู้เล่นดาวรุ่งอย่าง อดัม ซาไล, อันเดร เชือร์เล่ และ ลูอิส โฮลท์บี้ ให้เป็นผู้เล่นคนสำคัญในเกมรุกของทีม และทั้ง 3 คนก็มีส่วนสำคัญที่ทำให้ ไมนซ์ จบอันดับที่ 5 ในฤดูกาลนั้น ซึ่งเป็นอันดับที่ดีที่สุดของ ไมนซ์ ในการเล่นบุนเดสลีกามาจนถึงวันนี้ นอกจากนี้ทีมยังได้โควต้าไปเล่น ยูโรป้า ลีก เป็นครั้งแรกในประวัติศาสตร์สโมสรด้วย ทูเคิ่ล ยังได้รับการยกย่องจากแฟนบอลไมนซ์ ให้เป็นโค้ชที่ดีที่สุดในประวัติศาสตร์สโมสรเคียงข้างกับ เจอร์เก้น คล็อปป์ อีกด้วย
ที่ ดอร์ทมุนด์ เขาเป็นคนให้โอกาส คริสเตียน พูลิซิช ขึ้นมาเล่นในทีมชุดใหญ่ เป็นคนที่ปลุกปั้น อุสมาน เดมเบเล่ ให้มีฝีเท้ายอดเยี่ยมจนติดทีมยอดเยี่ยมของบุนเดสลีกา และคว้ารางวัลดาวรุ่งยอดเยี่ยมของบุนเดสลีกาในฤดูกาล 2016-17 นอกจากนี้ในฤดูกาลนั้น ปิแอร์-เอเมอริค โอบาเมยอง ยังคว้ารางวัลดาวซัลโวบุนเดสลีกาโดยยิงไป 31 ประตู และหลังจากนั้น โอบาเมยอง ก็ยังไม่เคยยิงในลีกได้ถึง 30 ประตูอีกเลย
และที่ เปแอสเช เขาเป็นคนผลักดันศักยภาพของ คีเลียน เอ็มบัปเป้ ให้สูงขึ้นกว่าเดิม ในฤดูกาล 2018-19 เอ็มบัปเป้ คว้ารางวัลดาวซัลโวลีกเอิงโดยยิงได้ถึง 33 ประตู ซึ่งก่อนหน้านี้ เอ็มบัปเป้ ยังไม่เคยยิงในลีกได้ถึง 20 ประตูเลยด้วยซ้ำ นอกจากนี้เขายังสามารถจัดการกับบรรดาซูเปอร์สตาร์ในทีมได้อย่างยอดเยี่ยม แทบไม่เคยมีดราม่าใดๆระหว่างนักเตะในทีมเลย
จากความยอดเยี่ยมทั้งหมดนี้เอง ทำให้ เชลซี ตัดสินใจดึง โธมัส ทูเคิ่ล มาคุมทีม เพราะนอกจาก ทูเคิ่ล จะทำทีมโดยเล่นฟุตบอลสวยงามแล้ว ผู้บริหารของเชลซียังหวังว่า ทูเคิ่ล จะช่วยดึงศักยภาพของนักเตะในทีมออกมาได้ โดยเฉพาะดาวเตะค่าตัวแพงอย่าง ติโม แวร์เนอร์ และ ไค ฮาแวร์ตซ์
ต้องมาดูกันว่าเมื่อเวลาผ่านไป การทำงานของ ทูเคิ่ล ที่ เชลซี จะราบรื่นมั้ย เขาจะมีปัญหากับผู้บริหารสโมสรอีกหรือเปล่า โดยเฉพาะเมื่อต้องมาเป็นโค้ชที่มีเจ้าของทีมอย่าง โรมัน อับราโมวิช ที่เคยมีปัญหาเรื่องการซื้อนักเตะที่เจ้าของทีมอยากได้แต่โค้ชไม่ต้องการมาแล้ว ไม่ว่าจะเป็น อังเดร เชฟเชนโก้ หรือ เฟร์นานโด ตอร์เรส รวมถึง มาริน่า กรานอฟสกาย่า ผู้อำนวยการสโมสรที่ขึ้นชื่อเรื่องความเด็ดขาดในการทำงาน ทูเคิ่ล จะอยู่คุม เชลซี ได้กี่ปีนั้น ฝีมือและฝีปากของเขาจะเป็นตัวตัดสินเอง