บทความฟุตบอล | แมนฯ ยูไนเต็ด กับ 6 อันดับ ดีลสุดพัง
ในตลาดซือขายนักเตะในฤดูการที่ 2015/16
บทความฟุตบอล | แมนฯ ยูไนเต็ด ในช่วงตลาดซื้อขายนักเตะในฤดูร้อนที่ผ่านมาก็ได้สร้างเสียงฮือฮาเป็นอย่างมาก โดยเฉพาะบิ๊กดีลนักเตะซูเปอร์สตาร์อันดับหนึ่งตลอดการของสโมสรอย่าง “คริสเตียโน โรนัลโด้” กลับคืนสู่ทัพ “ปีศาจแดง” ด้วยค่าตัวเพียง 13 ล้านปอนด์เท่านั้น ซึ่งในช่วงที่สตาร์รายนี้อยู่กับ “เรอัล มาดริด” แค่การขายเสื้อก็สามารถสร้างกำไรให้กับสโมสรได้เกินกว่าค่าตัวที่จ่ายไปเป็นที่เรียบร้อยแล้ว นอกจากนี้แล้วยังได้สุดยอดกองหลังอย่าง “ราเฟเอล วาราน” รวม “ราชันชุดขาว” รวมถึงสามารถปิดดีล “เจดอน ซานโช” หลังจากยื้อกับ “ดอร์ทมุนด์” มาอย่างยาวนานด้วยราคาสูงถึงถึง 76 ล้านปอนด์ แต่ก็ถือว่าเป็นการลงทุนในระยะยาวของสโมสร
แต่หากเรานำงบการจัดซื้อนักเตะในปีนี้ไปเทียบกับปีก่อน ๆ แล้ว แค่นี้ถือว่าในปีนี้ “แมนเชสเตอร์ ยูไนเต็ด” ใชเงินกว้านซื้อนักเตะค่อนข้างน้อยเป็นมูลค่ากว่า 126 ล้านปอนด์เท่านั้น แถมการลงทุนในครั้งนี้กลับได้นักเตะระดับชันนำจากศึกพรีเมียร์ลีกทั้งนั้น
หากใครที่เป็นแฟนฟุตบอลตลอด 10 ปีที่ผ่านมาจะทราบกันดีว่าเจ้า “ปีศาจแดง” จะใช้เงินอย่างไม่บันยะบันยังเพื่อกว้านซื้อนักเตะดาวรุ่ง และซูเปอร์สตาร์เข้าเสริมทัพมากมาย นักเตะบางรายหลังย้ายมาก็สร้างความสำเร็จไว้มากมาย แต่บางรายก็ทำผลงานได้น่าผิดหวังจนในที่สุดก็ต้องม้วนเสื่อออกจากทัพไปในที่สุด วันนี้ทาง Guru Cafe อยากจะพาทุกท่านย้อนกลับในช่วงฤดูการที่ 2015/16 เมื่อสมัยที่ “หลุยส์ ฟานกัล” ยังทำหน้าที่คุมทัพ “ปีศาจแดง” โดยฤดูการนั้นแม้ผลงานจะไม่ได้แย่มากนักจากการคว้าอันดับที่ 5 ในลีก แถมยังสามารถคว้าแชมป์ “เอฟเอ คัพ” มาครองได้ แต่ในการลงทุนด้านนักเตะใหม่ เหล่าบรรดาแฟนบอล “แมนเชสเตอร์ ยูไนเต็ด” ยกย่องให้เป็นปีที่ดีลการซื้อขายนักเตะล้มเหลวงเป็นอันดับต้น ๆ ของสโมสรเลยทีเดียว
อ็องโตนี มาร์กซิยาล – 54 ล้านปอนด์
คงปฏิเสธไม่ได้เลยว่าในช่วงฤดูการที่ 2015/16 ไม่ว่าสโมสรใดต่างก็ต้องการตัวกองหน้าดาวรุ่งพุ่งทยานชาวฝรั่งเศสรายนี้อย่างแน่นอน โดยเมื่อสมัยยังหนุ่มเขาได้ระเบิดฟอร์มการเล่นจนไปเตะตาสโมสรยักษ์ใหญ่แห่งพรีเมียร์ลีกอย่าง “แมนเชสเตอร์ ยูไนเต็ด” และพร้อมควักเงินกว่า 50 ล้าน เพื่อให้เขาเข้ามาเป็นดาวยิงคนใหม่ควัญใจแฟนบอลคนต่อไป ในช่วงฤดูการแรกที่เขาได้ย้ายมาก็พอที่จะสร้างผลงานได้อยู่บ้าง แต่หลังจากนั้นนอกจากจะไม่มีผลงานให้เห็นแล้ว กลับกลายเป็นว่าฟอร์มการเล่นกับล่วงหล่นไปแบบดื้อ ๆ ถึงแม้ว่าในช่วงฤดูการที่ 2019/20 ฝีเท้าจะกลับมาฉายแววอีกครั้ง แต่นั่นก็เป็นเพียงโชคช่วยเท่านั้น เนื่องจากในเวลาต่อมาฟอร์มการเล่นก็ตกลงสู่สภาพเดิม
มอร์แกน ชไนเดอร์แลง – 31.5 ล้านปอนด์
สำหรับนักเตะกองกลางตัวรับชาวฝรั่งเศสรายถือว่าเป็นหนึ่งผลงานที่ “เซาแฮมป์ตัน” ปรึกปั้นเขาขึ้นมากับมือโดยแท้ ซึ่งหลังจากที่เขาได้โชว์ผลงานอันน่าทึ่งในหลาย ๆ เกมที่ผ่านมา ทำให้เจ้า “ปีศาจแดง” แห่ง “พรีเมียร์ลีก” ไม่รอช้าที่จะกระชากตัวเข้ามาสมทบทัพในช่วงฤดูร้อนปีดังกล่าว ในช่วงแรก “ชไนเดอร์แลง” มักจะได้รับโอกาสให้ลงเล่นเป็นตัวจริง ๆ อยู่บ่อนครั้ง แต่ทว่าฝีเท้าของเขากลับไม่โดดเด่นดั่งก่อนสัมยค้าแข้งกับ “ทัพนักบุญ” กระทั่งการมาของ “โชเซ มูรินโญ” ทำให้อนาคตในโรงละครแห่งความฝันดับลงอย่าถาวรจนต้องย้ายไปอยู่กับ “เอฟเวอร์ตัน” น่าเศร้าที่เขาไม่สามารถเบียดแย่งตำแหน่งตัวจริงในถิ่น “กูดิสัน พาร์ด” ได้และตัดสินใจย้ายกลับไปเล่นในบ้านเกิดกับ นีซ ฤดูกาลก่อน
เมมฟิส เดปาย – 30.6 ล้านปอนด์
นี่คือผู้ที่เป็นดั่งดาวรุ่งดวงใหม่ที่จะเข้ามาสานตำนานเบอร์ 7 ของกองทัพ “ปีศาจแดง” ด้วยรูปแบบการเล่นที่ และฝีเท้าที่ใกล้เคียงกับ “คริสเตียโน โรนัลโด้” อีกทั้งยังเคยฝากผลงานที่โดดเด่นไว้กับ “พีเอสวี” และสมัยทีมชาติก็ยอดเยี่ยมไม่แพ้กันจนหลายฝ่าย ๆ การันตีว่าเจ้าหนุ่มรายนี้จะก่าวสู่แนวหน้าของวงการแน่นอน เพราะงั้น “ฟานกัล” จึงไม่รอช้ารีบเปิดดีลยื่นข้อเสนอคว้าตัวดาวรุ่งรายนี้เข้ามาสมทบทีมในทันที แต่ทว่าผลงานปีแรกในอังกฤษผลงานเด่นของเจ้าตัวกลับสวนทางกับการคาดหวังจากแฟนบอลเสียเหลือเกิน กระทั่ง “มูรินโญ” จัดการปล่อยตัวเขาออกจากทีมในปีถัดมาให้กับ “โอลิมปิก ลียง” ด้วยค่าตัวที่ขาดทุนแบบครึ่งต่อครึ่งก่อนที่เจ้าตัวจะกลับมาแจ้งเกิดอีกครั้งได้ในที่สุด
มัตเตโอ ดาร์เมียน – 16.2 ล้านปอนด์
แบ็คขวาชาวอิตาลีอย่าง “ดาร์เมียน” ผู้ที่เคยทำผลงานยอดเยี่ยมใน “เซเรีย อา” รายนี้ ทำให้เจ้า “ปีศาจแดง” ที่กำลังมองหาผู้เล่นในตำแหน่งนี้อยู่พอดี จึงเซ็นสัญญาคว้าตัวมาในทันที แต่ทว่าการย้ายมาในครั้งนี้เจ้าตัวจะไม่มีความสามารถมากพอที่จะเบียดนักเตะรุ่นเก๋าเพื่อขึ้นมาเป็นกองกำลังหลักให้กับทีมอย่างถาวรได้ จนช่วงหลังทำได้แค่นั่งสำรองรอวันเรียกใช้งานแต่เพียงเท่านั้น จนในที่สุดเจ้าตัวตัดสินใจเส้นทางกับ “ปีศาจแดง” และย้ายกลับ อิตาลี ในปี 2019 เพื่อมาค้าแข้งกับ “ปาร์มา” ก่อนที่ “อินเตอร์ มิลาน” จะเสนอสัญญายืมตัวไปคว้าแชมป์ร่วมกับทีมอย่างยิ่งใหญ่ในฤดูการที่ผ่านมา
บาสเตียน ชไวน์สไตเกอร์ – 8.1 ล้านปอนด์
กองกลางซุเปอร์สตาร์ที่ขณะนั้นวัย 30 ปีต้องการมองหาความท้าทายใหม่ ๆ หลังจากประสบความสำเร็จอย่างสูงกับ บาเยิร์น มิวนิค ด้วยการย้ายมาเล่นในอังกฤษกับ แมนเชสเตอร์ ยูไนเต็ด ซึ่งช่วงแรกเจ้าตัวก็ได้รับโอกาสลงสนามอย่างต่อเนื่องกระทั่งกลางฤดูกาลกลับถูกอาการบาดเจ็บเล่นงานอย่างหนัก ยิ่งไปกว่านั้นในยุคของ โชเซ มูรินโญ เจ้าตัวแทบไม่มีโอกาสได้ลงเล่นกับทีมชุดใหญ่เลยจนสุดท้ายก็ต้องเก็บกระเป๋าย้ายไปเล่นใน สหรัฐอเมริกา กับ ชิคาโก้ ไฟร์ ในปี 2017 ที่ผ่านมา
เซร์คิโอ โรเมโร – ไร้ค่าตัว
ในรายนี้สุดท้ายนี้เขาคือนายทวารเพียงหนึ่งเดียวในลิสนี้ “โรเมโร” ผู้รักษาประตูดีกรีทีมชาิตอาร์เจนตินาได้ย้ายเข้ามาสู่ถิ่น “แมนเชสเตอร์ ยูไนเต็ด” ในครั้งแรกในถานะตัวสำรองของ “ดาบิด เด เคอา” และทางโสมสรแทบจะไม่ได้มอบโอกาสให้เข้าได้ลงเล่นเลยซักครั้ง ก่อนที่ในปีต่อ “มูรินโญ” จะยื่นมือเข้ามาให้เข้าได้ลงรักษาประตูในศึก “ยูโรปาลีก” และคว้าแชมป์ร่วมกับทีมได้อย่างยิ่งใหญ่ แต่ทว่าในตอนสุดท้ายเขาก็ยังคงเป็นตัวสำรองอยู่วันยังค่ำ
ติดตามข่าวสารฟุตบอลไปกับกูรูคาเฟ่ คลิก
ให้ฟุตบอลเป็นมากกว่ากีฬา
รับทีเด็ดแม่นๆ ส่งตรงจากคอลัมนิสต์ตัวจริง
คลิกเลย @UFA88SV1