บทความฟุตบอล เพราะอะไร เจอร์ราร์ด ถึงไปไม่รอดกับ วิลล่า

บทความฟุตบอล เพราะอะไร เจอร์ราร์ด

 บทความฟุตบอล เพราะอะไร เจอร์ราร์ด ถึงไปไม่รอดกับ แอสตัน วิลล่า ในเวลาเพียงแค่ 11 เดือน

บทความฟุตบอล เพราะอะไร เจอร์ราร์ด ถึงไปไม่รอดกับ แอสตัน วิลล่า ในเวลาเพียงแค่ 11 เดือน ข่าวใหญ่ที่มาในเวลาเดียวกัน คือการปลด สตีเว่น เจอร์ราร์ด ของแอสตัน วิลล่า ทำให้เขากลายเป็นกุนซือรายที่ 4 ที่ต้องตกงานในฤดูกาลนี้ต่อจาก สก็อตต์ ปาร์คเกอร์ (บอร์นมัธ), โธมัส ทูเคิ่ล (เชลซี) และบรูโน่ ลาจ (วูล์ฟแฮมป์ตัน) ไม่นับ แกรห์ม พ็อตเตอร์ ที่สมัครใจย้ายจาก ไบร์ทตัน ไปคุมทีมใหญ่กว่าอย่างเชลซี อย่างที่เราทราบกันว่าผลงานของ แอสตัน วิลล่า ในการออกสตาร์ทฤดูกาลนี้ถือว่าล้มเหลวโดยสิ้นเชิง

1.ก้าวที่เร็วเกินไปบนเวทีพรีเมียร์ลีก ?

หลังจากที่พา เรนเจอร์ส ผงาดคว้าแชมป์ลีกสูงสุดสกอตแลนด์ครั้งแรกในรอบ 9 ปี แถมยังเป็นแชมป์ไร้พ่ายไม่แพ้ใครเลยในซีซั่นแล้ว และยังเก็บแต้มได้ถึง 102 คะแนนสูงสุดในประวัติศาสตร์

ชื่อของ สตีเว่น เจอร์ราร์ด ได้รับความสนใจจากหลายสโมสรในพรีเมียร์ลีก อังกฤษ แม้แต่แฟน ลิเวอร์พูล เองยังแอบคิดว่าเขานี่แหละจะเป็นทายาทคนต่อไปที่จะเข้ามาคุมทีม หลังจาก เยอร์เก้น คล็อปป์ วางมือ

11 พฤศจิกายน 2021 คือวันที่ สตีเว่น เจอร์ราร์ด หวนคืนเวทีพรีเมียร์ลีก อังกฤษ อีกครั้งในฐานะผู้จัดการทีมของ แอสตัน วิลล่า เขาเข้ามาทำงานแทนที่ของ ดีน สมิธ ที่ถูกปลดออกไป โดยมีเป้าหมายคือพาทีมรอดพ้นการตกชั้น

ในตอนนั้นเชื่อว่าแฟนบอลหลายคนต่างรู้สึกตื่นเต้นที่ได้เห็นอดีตนักเตะในดวงใจ หรือฝ่ายตรงข้ามอาจจะเป็นคู่ปะทะตัวแสบ กลับมาทำงานที่อังกฤษในบทบาทใหม่ แต่อีกมุมหนึ่ง มันเร็วเกินไปหรือเปล่า ? เพราะเอาจริง ๆ เขาเพิ่งจะเริ่มต้นเส้นทางโค้ชอาชีพแบบเต็มตัวด้วยเวลาไม่ถึง 3 ปี

ฤดูกาลแรกในการมาคุม แอสตัน วิลล่า ถือว่าทำได้ดี ดึงอดีตเพื่อนร่วมทีมสมัยค้าแข้งกับ ลิเวอร์พูล อย่าง เฟลิเป้ คูตินโญ่ กลับมาสร้างสีสัน โดยจบอันดับ 14 ของตาราง รอดพ้นการตกชั้นตามเป้าหมาย

ในซีซั่นนี้ถือเป็นการคุมทีมแบบเต็มฤดูกาลของเขาก็ว่าได้ ด้วยเป้าหมายใหม่ ในตอนนั้นแฟน ๆ ของ แอสตัน วิลล่า ต่างมีความหวังว่าเขาจะสามารถยกระดับทีมให้ก้าวขึ้นอยู่ในระดับท็อป อย่างน้อย ๆ ก็ขอลุ้นพื้นที่ฟุตบอลยุโรป

แต่ทุกอย่างไม่ได้เป็นดั่งที่หวังเอาไว้ วิลล่า เริ่มต้นด้วยการพ่ายแพ้ให้กับทีมน้องใหม่อย่าง บอร์นมัธ ในเกมเปิดฤดูกาล หลังจากนั้นฟอร์มก็ลุ่ม ๆ ดอน ๆ เอาแน่เอานอนไม่ได้

จนฟางเส้นสุดท้ายขาดลง.. ในเกมที่ 11 ของฤดูกาล เขาพาทีมบุกไปพ่ายให้กับ ฟูแล่ม อีกหนึ่งทีมน้องใหม่แบบหมดสภาพด้วยสกอร์ 3-0 ทำให้ 11 เกมเก็บได้เพียง 9 คะแนน ชนะ 2 เสมอ 3 แพ้ 6 หล่นไปอยู่โซนท้ายตาราง

หลังจบเกมดังกล่าวเขาถูกปลดออกจากตำแหน่งกุนซือทันที หยุดเส้นทางการทำงานร่วมกันไว้เพียงแค่ 11 เดือนเศษ ทิ้งสถิติการคุมทีมไว้ที่ 40 เกม ชนะ 13 เสมอ 8 แพ้ 19 คิดเป่าเฉลี่ยการชนะเพียงแค่ 32.5 เปอร์เซ็นต์

2.ระบบการเล่นที่ไม่ชัดเจน

ระบบการเล่นที่ พี่เจิด มักใช้อยู่เป็นประจำคือ 4-3-1-2 และ 4-3-3 ทั้งสองระบบนี้ ต่างก็ไม่มีความชัดเจน ดูแล้วขัดหูขัดตาอยู่เสมอ เรียกได้ว่าไปไม่สุดสักทาง จึงไม่น่าแปลกใจว่าทำไมเขาถึงจำเป็นต้องเปลี่ยนแปลงระบบการเล่นอยู่เสมอ บางเกมก็ใช้ 4-2-3-1 หรือ 4-3-2-1 ด้วย

ซึ่งดูจากแทคติกถือว่าออกแนวโบราณ วางบอลให้คู่หัวหอกคอยวิ่งส่ายซ้ายขวา และใช้การเติมของแผงมิดฟิลด์ขึ้นไปช่วย จะว่าไปแล้วไม่ค่อยมีทีมไหนที่เล่นแบบนี้แล้วในพรีเมียร์ลีก โดยเฉพาะกับทีมหัวแถวของตาราง

ทำให้ทีมไม่มีคาแรคเตอร์ แม้ว่าจะพยายามครอบครองบอลด้วยการอัดผู้เล่นแดนกลางลงไปถึง 3 คน แต่เมื่อครองบอลได้ก็ไม่รู้จะไปทางไหน จะต่อบอลเข้าไปทำก็ดูไม่เนียน จนต้องกลับไปเน้นการวางบอลยาวอยู่เสมอ ซึ่งมันดูแปลก ๆ และสุดท้ายก็ออกมาอย่างที่เห็น เกมรับไม่เหนียวมักจะเสียประตูง่าย ๆ เกมรุกก็ดูไม่มีความอันตราย เน้นออกข้างให้วิงแบ็คโยนเข้าไปในกรอบโทษ หรือไม่ก็วางบอลยาวก็เข้าลูปเดิม ผลลัพธ์ก็ออกมาแบบเดิม ๆ

3.โชคร้ายในการเสริมทัพและปัญหาตัวหลักบาดเจ็บ

ในช่วง ซัมเมอร์ที่ผ่านมา สตีเว่น เจอร์ราร์ด ใช้เงินในการเสริมทัพ ไปเกือบ 90 ล้านปอนด์ ในการ คว้าตัว ดีเอโก้ คาร์ลอส, ลูก้าส์ ดีญ, เฟลิเป้ คูตินโญ่, เลอันเดอร์ เดนดอร์คเกอร์ และโรบิน โอลเซ่น ที่เซ็นมาแบบฟรี ๆ ก็มี บูบาการ์ กามาร่า และ คัลลั่ม แชมเบอร์ส และ ยังไปยืม ลุควิค ออกุสตินส์สัน และ แยน เบ็ดนาเร็ค เข้ามาเสริมอีก

แน่นอนว่าการใช้เงินในระบบเกือบแตะหลัก 100 ล้านเป้าหมายของทีมคงไม่ใช่แค่การดิ้นรนหนีการตกชั้น นักเตะที่เสริมเข้ามาถือว่าซื้อได้ดี พยายามเติมเต็มจุดอ่อน แต่ปัญหาคือซื้อมาแล้วไม่ได้ใช้

เนื่องจาก ดีเอโก้ คาร์ลอส ที่กะว่าจะเอามาเป็นตัวหลักดันไปโชคร้ายได้รับบาดเจ็บต้องพักยาวครึ่งปี ส่วน ลูก้าส์ ดีญ ก็เดี้ยงเหมือนกัน ตัวที่เอาเพื่อสำรองในตำแหน่งเดียวกันอย่าง ลุดวิค ออกุสตินส์สัน ก็มาเดี้ยงอีก ทำให้ต้องจำใจใช้ แอชลีย์ ยัง ตัวเก๋าที่ก็เริ่มโรยราไปตามสภาพ

เมื่อการเสริมทัพไม่สัมฤทธิ์ผลแผนที่วางเอาไว้ก็ใช้การไม่ได้ บวกกับประสบการณ์ของเขาที่ต้องยอมรับว่ามีน้อย ไม่มีแผนสำรองไม่รู้จะแก้ปัญหาอย่างไร ก็ตะบี้ตะบันเล่นแบบเดิม ๆ ไปเลย

4.ขาดมันสมองอย่าง ไมเคิ่ล บีล

ข้อนี้ถือว่าสำคัญที่สูงฤดูกาลนี้เขาต้องทำงานโดยไม่มี ไมเคิ่ล บีล มือขวาคนสำคัญที่ดูแลในเรื่องของแทคติก หลังตัดสินใจแยกทางไปคุมทีม ควีนสปาร์ค เรนเจอร์ ในระดับเดอะ แชมเปี้ยนชิพ

เราอาจจะคุ้นเคยกันดีกับ “บิ๊กแม็ค” แกรี่ แม็คอัลลิสเตอร์ อดีตมิดฟิลด์มิดฟิลด์รุ่นพี่ของ สตีเว่น เจอร์ราร์ด ในทัพ “หงส์แดง” ที่ตามประกบเป็นเงาตามตัวไปไหนไปด้วย การเข้ามาคุมแอสตัน วิลล่า ก็ติดตามมาด้วยเช่นกันในฐานะของมือขวาสามัคคี

แต่ว่าดูแลคนล่ะบทบาทกับ บีล ที่จะเป็นคนทำหน้าที่โค้ชชิ่งนักเตะแบบถึงเนื้อถึงตัว ด้วยการใส่รายละเอียดและแท็คติกต่าง ๆ เขาคือส่วนสำคัญและเป็นเบี้องหลังแห่งความสำเร็จตั้งแต่สมัยทำงานที่เรนเจอร์ส

แม้แต่พี่เจิดเอง ยังเคยให้สัมภาษณ์ว่าเขาโชคดีที่ได้โค้ชฝีมือระดับพระกาฬเข้ามาอยู่ในทีมสต๊าฟฟ์ และอาจจะใช้เวลา 15-20 ปี ถึงจะเก่งเท่ากับ ไมเคิ่ล บีล เพราะนี่คือผู้เชี่ยวชาญอย่างแท้จริง

จึงกลายเป็นเหตุผลสำคัญว่าทำไมการขาดหายไปของ ไมเคิ่ล บีล ถึงส่งผลกระทบต่อแอสตัน วิลล่า เพราะการขาดมันสมองคนที่คอยทำงานหลังบ้าน ทำให้ทีมรวนไปทั้งระบบ

5.เปลี่ยนกัปตันทีมจนสปิริตเสีย

ก่อนจะเริ่มต้นฤดูกาล 2022-23 มีข่าวใหญ่ในรั้วของ แอสตัน วิลล่า เมื่อ พี่เจิด ประกาศยึดปลอกแขนกัปตันทีมของ ไทโรน มิงค์ส ปราการหลังร่างยักษ์ และให้ จอห์น แม็คกินน์ มิดฟิลด์เลือดสก็อตต์ทำหน้าที่แทน

ในตอนนั้นมีหลายสื่อชื่นชมการตัดสินใจของเทรนเนอร์หัวขิง และย้อนเหตุการณ์สมัยที่เขาเป็นนักเตะได้รับปลอกแขนกัปตันทีมจาก เชราร์ อุลลิเย่ร์ ที่ไปยึดมาจากรุ่นพี่อย่าง ซามี่ ฮูเปีย

แต่ในมุมกลับกันบางคนต่างตั้งข้อสงสัยว่านี่อาจจะเป็นรอยร้าวเล็ก ๆ ที่จะขยายวงกว้างในอนาคต และมันก็อาจจะมีส่วนที่ทำให้ผลงานการคุมทีมของเขาไม่เป็นดั่งหวัง

แม้ตัวของ ไทโรน มิงค์ส จะยืนยันว่าเขาไม่มีปัญหาอะไร และพร้อมลงเล่นให้ต้นสังกัดภายใต้การนำทีมของ จอห์น แม็คกินน์ แต่เอาจริง ๆ ในใจนักเตะก็อาจจะมีแอบเคืองอยู่เหมือนกันเพราะเขาถูกลดบทบาทโดยตรง

ไม่รู้ว่าไปส่งผลกระทบต่อฟอร์มการเล่นของนักเตะหลาย ๆ คน หรือเปล่า แม้แต่เพื่อนเก่าสมัยค้าแข้งกับ ลิเวอร์พูล อย่าง เฟลิเป้ คูตินโญ่ ก็ฟอร์มตกแบบน่าใจหาย

 

นี่แค่ส่วนหนึ่งของเหตุผลว่าทำไม สตีเว่น เจอร์ราร์ด จึงล้มเหลวกับการคุมทีม แอสตัน วิลล่า ยังมีเหตุผลอื่น ๆ ที่เราอาจจะไม่รู้

แต่อย่างน้อยก็ขอเป็นกำลังใจให้เขาลุกขึ้นสู้ กลับมาให้ได้อีกครั้งในฐานะผู้จัดการทีม เชื่อว่าด้วยอายุและชื่อเสียงของเขา เส้นทางในอาชีพโค้ชยังอีกยาวไกล เดี๋ยวก็มีงานใหม่เข้ามา

ติดตามข่าวสารฟุตบอลไปกับกูรูคาเฟ่ คลิก 

ให้ฟุตบอลเป็นมากกว่ากีฬา

รับทีเด็ดแม่นๆ ส่งตรงจากคอลัมนิสต์ตัวจริง
คลิกเลย @UFA88SV1 

สล็อตมาใหม่บอลออนไลน์ มวยเด็ด ทีเด็ดบอล
สล็อตมาใหม่ มวยเด็ด
ทีเด็ดบอล