บทความฟุตบอล ลิเวอร์พูล vs คริสตัล พาเลซ กับประเด็นร้อนหลังจบเกมเสมอ 1-1
บทความฟุตบอล ลิเวอร์พูล พบ คริสตัล พาเลซ ในการแข่งขันฟุตบอลพรีเมียร์ลีก อังกฤษ ในวันที่ 15 สิงหาคม 2022 เวลา 02:00 บทสรุปเกมในครั้งนี้ จบด้วยเกมเสมอ 1-1
แนวรุกเบนขวาประสานงานกันมันส์ในต้นเกม
ในช่วงแรกดูเหมือนว่า “ลิเวอร์พูล” จะได้เป็นฝ่ายครองเกมอยู่เพียงฝ่ายเดียวอย่างเห็นได้ชัด พวกเขาเดินหน้าสร้างโอกาสโจมตีใส่ทีมข้าศึกแบบไม่หยุดพัก แต่ในจังหวะที่พวกเขาหลุด ๆ เกิน ๆ ไปบ้าง ก็ไม่อาจส่งบอลสู่ก้นตาข่าย “คริสตัล พาเลซ” ได้
เกมเอียงขวาที่ “แอนฟิลด์” แตกต่างถึงขนาดที่ทำให้ “คริสตัล พาเลซ” ไม่สามารถเข้าถึงกรอบเขตโทษของ “ลิเวอร์พูล” ได้เลยในช่วง 25 นาทีแรก ทำให้สถิติในการครองบอลของ “พาเลซ” ในเขตโทษ “หงส์แดง” เป็นเพียง 0 ครั้ง
ผลของการพับสนามบุกอยู่ฝ่ายเดียวโดยที่ทีมเยือนตั้งรีบลีกทำให้ “เทรนท์ อเล็กซานเดอร์-อาร์โนลด์” โดดเด่นกับการขึ้นเกม วางบอลจากทั้งริมเส้น และแนวลีกสู่พื้นที่อันตราย สร้างโอกาสให้สมาชิกในทีมทำประตูอยู่หลายครั้ง
สมดุลแดนกลาง เอลเลียตต์-ฟาบินโญ-มิลเนอร์
“เยอร์เก้น คล็อปป์” เลือกที่จะใช้งาน “ฮาร์วีย์ เอลเลียต์” ลงประสานประคู่กับ “ฟาบินโญ” และ “เจมส์ มิลเนอร์” ที่แดนกลาง กลายเป็นส่วนผสมที่ทำได้น่าพอใจในระดับหนึ่งเมื่อดวลกับคู่แข่งอย่าง “พาเลซ”
กองกลางทีมชาติ บราซิล เลือกที่จะปักหลักคัดท้ายในบทบาท “โฮลดิ้งมิดฟิลด์” โดยมี “เจมส์ มิลเนอร์” เติมความดุดันทั้งในการไล่บีบพื้นทีห และทะยานเติมขึ้นไปมีส่วนร่วมในพื้นที่อันตราย ขณะที่ “ฮาร์ลีย์ เอลเลียตต์” วูบวาบกับการเคลื่อนเติมไปยังพื้นที่สุดท้าย และใช้ทักษะการไปกับบอลสร้างปัญหาให้กับแนวรับของ “พาเลซ”
แต่สิ่งที่มิดฟิลด์ทั้ง 3 รายนี้จะขายหายไปสักเล็กน้อย คือ วิสัยทัศน์ในการผ่านบอลสู่พื้นที่สุดท้ายอย่าง “ติอาโก้ อัลคันทารา” เคยทำได้กับ “ทีมโดยความหวือหวาของ “เอลเลียตต์” ในช่วงต้นเกมค่อย ๆ แผนลงเมื่อเวลาผ่านไป
แต่สิ่งที่มิดฟิลด์ทั้ง 3 ดูจะขาดหายไปสักเล็กน้อยคือวิสัยทัศน์ในการผ่านบอลสู่พื้นที่สุดท้ายอย่างที่ ติอาโก้ อัลคันทารา เคยทำได้กับทีมโดยความหวือหวาของ เอลเลียตต์ ในช่วงต้นค่อยๆ หายไปจากเกมเมื่อเวลาผ่านไป
นูนเญซ ไม่เด็ดขาดพอ? และยังพลาดท่าโดนใบแดง
ส่วนสูง ความแข็งแรง และความคล่องตัวของ สตาร์รายนี้ ได้สร้างทางเลือกใหม่กับแผนการทำประตูให้กับ “ลิเวอร์พูล” ให้มีความหลากหลายมากยิ่งขึ้นอย่างเห็นได้ชัด บอลได้เร็กต์ชนิดที่ทำให้ “นูนเญซ” ไล่ตามเก็บที่แดนบนมีให้เห็นเยอะขึ้นเช่นเดียวกับความพยายามครอสบอลให้ดาวยิงทีมชาติ “อุรุกวัย” ทะยานโฉบเข้าหาบอลเพื่อจบสกอร์
แต่สิ่งที่ยังเป็นปัญหาสำหรับแข้งวัย 23 ปี รายนี้เลย คือ ความเด็ดขาด ซึ่งเจ้าตัวไม่สามารถจบสกอร์ให้ทีมได้ ถึงแม้ว่าเพื่อนร่วมทีมจะสร้างโอกาสให้กับเจ้าตัวหลายต่อหลายครั้งแล้วก็ตาม
ผลงานส่วนตัวที่ว่าไม่น่าพอใจนักถูกยกระดับความเลวร้ายด้วยใบแดงชนิดเสียค่าโง่ เมื่อเจ้าตัวเสียเหลี่ยมให้กับ “โจอาคิม แอนเดอร์เซน” ถูกยั่วโมโหจนบันดาลโทสะใส่ปราการหลังทีมค่แข่ง จนได้รับใบแดงออกจากสนามในที่สุด
ติดตามข่าวสารฟุตบอลไปกับกูรูคาเฟ่ คลิก
ให้ฟุตบอลเป็นมากกว่ากีฬา
รับทีเด็ดแม่นๆ ส่งตรงจากคอลัมนิสต์ตัวจริง
คลิกเลย @GURUCAFEV2